เลือกวิธีจัดฟันเด็กให้เหมาะกับฟันของลูกการเลือกวิธีจัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูก ควรเริ่มต้นจากการ ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางด้านเด็ก เนื่องจากปัญหาฟันของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน และการจัดฟันในเด็กมักมีเป้าหมายเพื่อ การปรับโครงสร้างขากรรไกรและการเตรียมพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้น (Interceptive Treatment หรือ Phase 1) มากกว่าแค่การเรียงฟัน
อย่างไรก็ตาม นี่คือภาพรวมของประเภทการจัดฟันเด็กที่นิยมใช้และปัจจัยในการพิจารณา:
ประเภทการจัดฟันเด็กที่นิยม
การจัดฟันในเด็ก (โดยเฉพาะช่วงอายุ 6-12 ปี ที่มีฟันผสม) มักแบ่งตามประเภทของเครื่องมือ ดังนี้:
ประเภทเครื่องมือ ลักษณะ ข้อดี ข้อเสีย/ข้อควรพิจารณา
1. เครื่องมือแบบถอดได้ เครื่องมือที่ถอดเข้าออกเองได้ มักใช้ในระยะแรก (Phase 1) เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างขากรรไกรเบื้องต้น เช่น ขยายขากรรไกร * แก้ไขปัญหาโครงสร้าง ขากรรไกรได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่เด็กกำลังเจริญเติบโต * ต้องอาศัยวินัยสูง ในการใส่ให้ครบตามเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด (ปกติ 12-14 ชม./วัน) * มีโอกาสแตกหักหรือสูญหาย
2. เครื่องมือแบบติดแน่น (เหล็กดัดฟัน) เครื่องมือติดแน่นบนฟัน (Brackets) ที่ทำจากโลหะ (Metal) หรือเซรามิก (Ceramic) * มีประสิทธิภาพสูง ในการเคลื่อนฟันที่ซับซ้อน * ทำความสะอาดยาก เสี่ยงต่อฟันผุและเหงือกอักเสบ * อาจทำให้เกิดแผลในช่องปาก * สังเกตเห็นได้ชัด (ยกเว้นเซรามิก)
3. การจัดฟันแบบใส (Invisalign First) ชุดเครื่องมือจัดฟันพลาสติกใสที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเด็กที่มีฟันผสม สามารถถอดเข้าออกเองได้ * มองไม่เห็น เพิ่มความมั่นใจ * ถอดออกได้ง่าย สะดวกต่อการรับประทานอาหารและการทำความสะอาด * ราคาสูงกว่า แบบโลหะ * ต้องถอดออกขณะกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่มีสี * ต้องมีวินัยในการใส่อย่างเคร่งครัด
4. เครื่องมือภายนอกช่องปาก (Headgear/Facemask) ใช้ร่วมกับการจัดฟันปกติในกรณีที่ ขากรรไกรผิดปกติอย่างรุนแรง เพื่อปรับทิศทางการเจริญเติบโต * ปรับโครงสร้างขากรรไกร ที่ผิดปกติได้ดี * ต้องใส่นานหลายชั่วโมงต่อวัน (มักใส่ขณะอยู่บ้าน/นอน) * อาจส่งผลต่อความมั่นใจของเด็ก
ปัจจัยในการพิจารณาเลือกวิธีจัดฟัน
เพื่อให้เลือกวิธีจัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูก ผู้ปกครองควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้:
ปัญหาฟันและขากรรไกรของลูก:
ปัญหาโครงสร้าง (เช่น คางยื่น ฟันสบคร่อม ขากรรไกรบนแคบ): ทันตแพทย์มักเริ่มด้วยเครื่องมือแบบถอดได้หรือเครื่องมือเฉพาะทางเพื่อปรับโครงสร้างก่อน
ปัญหาการเรียงฟัน (เช่น ฟันซ้อนเกเล็กน้อย): อาจใช้เครื่องมือติดแน่น หรือจัดฟันใส
ความร่วมมือและวินัยของลูก:
ถ้าลูกมีวินัยในการใส่เครื่องมืออย่างดี อาจเหมาะกับ เครื่องมือแบบถอดได้ หรือ จัดฟันใส
ถ้าผู้ปกครองกังวลเรื่องการใส่ไม่ครบ หรือปัญหาซับซ้อนมาก อาจเหมาะกับ เครื่องมือแบบติดแน่น
งบประมาณ:
จัดฟันโลหะ มักเป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด
จัดฟันใส มีราคาสูงที่สุด
ความสวยงามและความมั่นใจของลูก:
ถ้าลูกกังวลเรื่องรูปลักษณ์ จัดฟันใส (Invisalign First) หรือ จัดฟันแบบเซรามิก เป็นทางเลือกที่มองเห็นได้น้อยกว่า
ข้อสรุปที่สำคัญที่สุด:
ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์จัดฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ (ประมาณ 7 ขวบ) เพื่อประเมินปัญหาอย่างละเอียด ทันตแพทย์จะพิจารณาจากภาพรวมของปัญหาฟันและขากรรไกรของลูก เพื่อแนะนำช่วงเวลาและประเภทของเครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องแก้ไขความผิดปกติของขากรรไกร ซึ่งมีโอกาสทำได้ดีที่สุดในขณะที่เด็กยังมีการเจริญเติบโตอยู่