เคล็ดลับกระจกใส! วิธีดูแลประตู–หน้าต่างบานใหญ่ให้สะอาดเหมือนใหม่
บ้านที่มีประตูกระจกบานใหญ่หรือหน้าต่างกระจกเต็มบานใหญ่ ๆ ซึ่งกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้าน มักจะให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และสว่างสบายตา เพราะช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาภายในบ้านได้อย่างเต็มที่และยังทำให้บ้านดูมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งบ้านที่ออกแบบมาในลักษณะนี้ถือว่าเป็นดีไซน์ยอดนิยมของบ้านยุคใหม่ โดยเฉพาะบ้านที่มีสไตล์เป็นแบบโมเดิร์นอย่างเช่นบ้านในโซน
โครงการบ้านเชียงใหม่ 2568ที่หลายโครงการนิยมออกแบบให้กระจกเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในกับวิวภายนอก เพื่อเสริมบรรยากาศให้ให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับทิวเขาและธรรมชาติรอบบ้านได้ทุกช่วงเวลา และยังเสริมสไตล์ให้เข้ากับการใช้ชีวิตสุดโมเดิร์นของคนยุคใหม่ด้วย
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วบ้านที่มีกระจกบานใหญ่นอกจากจะช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาภายในบ้านและทำให้บ้านมีความกว้างขวาง ดูมีความปลอดโปร่ง โล่งสบายแล้ว ก็มีสิ่งที่หลายคนกังวลใจอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือ “คราบฝุ่น ความหมอง หรือรอยนิ้วมือ” ที่มักปรากฏให้เห็นได้ง่ายบนบานกระจกรอบ ๆ บ้าน ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลหรือทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้วก็จะทำให้เกิดความสกปรกรวมถึงไม่น่ามองอีกด้วย และแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้กระจกใส ๆ กลายเป็นจุดที่บั่นทอนสวยงานของบ้านเมื่อมองออกไป
ในบทความนี้ เราจะพาเจ้าของบ้านทุกท่าน โดยเฉพาะใครที่อยู่ใน
บ้านจัดสรรเชียงใหม่หรือโครงการบ้านออกแบบให้ที่มีพื้นที่ใช้สอยแนวเปิดโล่งแบบโมเดิร์น มาเรียนรู้เทคนิคง่าย ๆ ในการทำความสะอาดกระจกและประตูบานใหญ่ให้กลับมาใสสะอาดเหมือนใหม่ เพียงแค่ใช้ของใกล้ตัว ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์แพง แถมยังทำได้เองแบบไม่ต้องเรียกช่างให้เสียค่าใช้จ่าย
เพราะแค่คุณรู้วิธีที่ถูกต้อง การดูแลบ้านให้น่าอยู่ก็กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด!
เปิดเทคนิคทำความสะอาดบานกระจกภายในบ้านที่ใครก็ทำตามได้1. เลือกเวลาทำความสะอาดให้เหมาะสมเวลาคือหัวใจสำคัญของการดูแลกระจก โดยเฉพาะกับกระจกบานใหญ่ที่ต้องการความประณีต หากเลือกเวลาทำความสะอาดผิด เช่น ช่วงเที่ยงหรือบ่ายที่แดดแรงจัด อุณหภูมิที่สูงอาจทำให้น้ำยาทำความสะอาดระเหยเร็วเกินไป จนทิ้งคราบไว้บนกระจกได้ง่าย ซ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำความสะอาดบานกระจกภายในบ้านคือช่วงเช้าตรู่หรือเย็นหลังพระอาทิตย์ตก เพราะเป็นช่วงที่มีแสงแดดอ่อน ทำให้แสงแดดไม่สะท้อนเข้าตา และทำให้เห็นคราบฝุ่นหรือรอยนิ้วมือได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้เหมาะมากกับบ้านที่ใช้กระจกเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ เช่น
บ้านเดี่ยว 2 ชั้นเชียงใหม่ในโครงการแสนสราญที่มักจะออกแบบบ้านให้มีพื้นที่เปิดโล่งและสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติแบบเต็มที่เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยและทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีทั้งความอบอุ่นและสะดวกสบายต่อการอยู่จริง
2. ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวกระจกการเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องจะช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดรอยขีดข่วนที่มองเห็นได้ชัดในเวลากระทบแสง โดยการทำความสะอาดบานกระจกควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่ม สะอาด และปราศจากขุย เพื่อให้สามารถเช็ดกระจกได้อย่างอ่อนโยน และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าแห้งหยาบหรือกระดาษทิชชู่ซึ่งอาจทิ้งเศษไว้บนพื้นผิว นอกจากนี้ การใช้ “ไม้รีดน้ำ” หรือสไควี (Squeegee) ที่ถือเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตที่ใช้ในงานทำความสะอาดกระจกตามอาคารสูง จะช่วยรีดน้ำและน้ำยาได้หมดจดในครั้งเดียว เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านที่มีกระจกบานสูง ๆ หรือหน้าต่างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบ้านโมเดิร์นใน
โครงการบ้านจัดสรรเชียงใหม่ที่มักจะออกแบบ้านให้มีกระจกบานใหญ่
3. สูตรน้ำยาทำความสะอาดง่าย ๆ จากของใช้ในบ้านหากไม่ต้องการใช้น้ำยาเคมีเข้มข้น แนะนำให้ผสมน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน ใส่ขวดสเปรย์แล้วเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นฉีดลงบนกระจกแล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดออก สูตรนี้เหมาะกับกระจกที่มีคราบฝุ่น คราบมัน หรือคราบฝนฝังแน่นที่ทำให้กระจกดูหม่นหมอง น้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติในการละลายคราบสบู่ คราบไขมัน และยังฆ่าเชื้อได้อ่อน ๆ โดยไม่ทำลายผิวกระจก ทั้งยังปลอดภัยกับเด็กและสัตว์เลี้ยง เหมาะกับบ้านที่อยู่อาศัยกันทั้งครอบครัวอย่าง
โครงการบ้านหางดงเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการอยู่อาศัยร่วมกันของทุกเจนเนอเรชัน
4. ทำความสะอาดขอบกรอบ–รางเลื่อนอย่างสม่ำเสมอนอกจากตัวแผ่นกระจกแล้ว บริเวณที่มักถูกมองข้ามคือ “ขอบกรอบ” และ “รางเลื่อน” โดยเฉพาะประตูกระจกเลื่อนที่ใช้เปิด–ปิดทุกวัน เศษฝุ่นและทรายเล็ก ๆ ที่สะสมในรางอาจทำให้การใช้งานติดขัด หรือทำให้บานประตูเกิดเสียงดังเมื่อเลื่อน
ควรใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นตามร่องและรางทุกสัปดาห์ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดซ้ำอีกครั้ง หากเจอคราบฝังแน่นอาจใช้แปรงสีฟันเก่าขัดเบา ๆ ช่วยได้ดี เคล็ดลับนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายปี โดยเฉพาะกับบ้านที่อยู่ในแหล่งธรรมชาติ เช่น
บ้านวิวเขาเชียงใหม่ที่ในบางช่วงอาจมีฝุ่นละอองปลิวเข้ามาตามทิศทางลม
5. อย่าลืมซีลยางและขอบอลูมิเนียมซีลยางรอบกระจกมีหน้าที่ป้องกันฝุ่น น้ำ และเสียงไม่ให้ผ่านเข้าออก หากซีลชำรุด จะส่งผลทั้งเรื่องความสะอาดและค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะจะต้องเปลี่ยนกระจกหรือกรอบทั้งบาน ควรเช็ดทำความสะอาดซีลยางด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ทุก 1–2 เดือน และหมั่นตรวจสอบว่ามีส่วนที่แห้งกรอบหรือฉีกขาดหรือไม่ ขอบกรอบอลูมิเนียมควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง เช่น กรดหรือด่างเข้มข้น เพราะจะทำให้สีซีดหรือเกิดสนิมในจุดเชื่อมต่อได้ง่าย ควรใช้เพียงน้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้าไมโครไฟเบอร์เท่านั้น วิธีนี้เหมาะกับบ้านที่ต้องการคงความสวยของวัสดุและรายละเอียดงานก่อสร้าง
6. เพิ่มสารเคลือบป้องกันคราบและหยดน้ำสำหรับใครที่อยากให้กระจกดูใสสะอาดได้นานขึ้นโดยไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ การใช้สารเคลือบกันน้ำและกันคราบ เช่น “นาโนโค้ท” หรือ “ซิลิโคนใสเคลือบกระจก” จะช่วยให้ฝุ่นและหยดน้ำไม่เกาะกระจกเป็นเวลานาน ทำให้กระจกดูใสเหมือนใหม่อยู่เสมอ เคลือบเพียงแค่ปีละ 1–2 ครั้งก็ช่วยประหยัดเวลาในระยะยาว เหมาะกับบ้านที่มีกระจกขนาดใหญ่จำนวนมาก หรืออยู่ในโซนที่ต้องเจอกับฝนและลมตลอด เช่นบ้านที่อยู่ในแปลงหัวมุม หรือโซนมุมรับวิว

เป็นยังไงกันบ้างคะการทำความสะอาดบานกระจกภายในบ้านไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม ใครที่กำลังหาวิธีทำความสะอาดบานประตูหรือหน้าต่างที่เป็นกระจกก็อย่าลืมเอาเทคนิคดี ๆ ที่เรารวบรวมมาฝากไปใช้กันได้นะคะ เพราะการดูแลกระจกให้ใสปิ๊งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความสะอาดเท่านั้น แต่ยังช่วยสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านอีกด้วย