คุณสมบัติสำคัญของผ้ากันไฟ สำหรับงานทนอุณหภูมิสูงผ้ากันไฟสำหรับงานทนอุณหภูมิสูงไม่ได้หมายถึงแค่ "ไม่ไหม้ไฟ" แต่หมายถึงความสามารถในการรักษาคุณสมบัติและโครงสร้างภายใต้ความร้อนจัดเป็นเวลานาน รวมถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ที่สำคัญมากในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
คุณสมบัติสำคัญของผ้ากันไฟสำหรับงานทนอุณหภูมิสูง
ความสามารถในการทนอุณหภูมิสูงสุด (Maximum Temperature Resistance):
นี่คือคุณสมบัติหลักที่บ่งบอกว่าผ้าชนิดนั้นเหมาะกับงานประเภทใด ต้องระบุว่าผ้าสามารถทนอุณหภูมิสูงสุดได้เท่าไหร่ (เช่น 550°C, 1,000°C, 1,400°C หรือสูงกว่า) และทนได้ต่อเนื่อง (Continuous Operating Temperature) หรือทนได้เป็นครั้งคราว (Intermittent / Peak Temperature)
วัสดุที่ใช้ในผ้ากลุ่มนี้มักเป็นใยอนินทรีย์ (Inorganic Fibers) ที่มีจุดหลอมเหลวสูงมาก เช่น ใยแก้ว (Fiberglass), ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric), หรือ ผ้าเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber)
ไม่ติดไฟและไม่ลามไฟ (Non-Combustible & Fire-Resistant):
ผ้าต้องเป็นวัสดุที่ไม่เป็นเชื้อเพลิง (Non-combustible) กล่าวคือไม่สามารถลุกไหม้ได้ด้วยตัวเอง และไม่ช่วยให้ไฟลุกลาม
เมื่อถูกความร้อนจัดหรือเปลวไฟโดยตรง ควรจะ ไม่ลุกติดไฟ หรือ ดับเองได้ทันที (Self-extinguishing) เมื่อนำแหล่งกำเนิดไฟออกไป
ต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากล เช่น BS 476 Part 4 (Non-combustibility), NFPA 701 (สำหรับการลามไฟของสิ่งทอ), ASTM E84 (สำหรับการลามไฟบนพื้นผิวและการเกิดควัน) หรือ Euroclass A1/A2
ปล่อยควันและสารพิษต่ำ (Low Smoke & Toxicity Emission):
ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม หากเกิดเพลิงไหม้ ควันและก๊าซพิษเป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าเปลวไฟเสียอีก
ผ้ากันไฟที่ดีควรได้รับการทดสอบและรับรองว่าเมื่อถูกความร้อนสูงหรือไหม้ จะปล่อยควันและสารพิษออกมาในปริมาณที่น้อยที่สุด
ความแข็งแรงเชิงกลและความทนทาน (Mechanical Strength & Durability):
ทนทานต่อการฉีกขาด/เสียดสี: งานอุตสาหกรรมมักมีการเคลื่อนไหว, การเสียดสี, หรือการกระแทก ผ้าต้องมีความแข็งแรงพอที่จะไม่ฉีกขาดหรือสึกหรอง่าย
คงรูปภายใต้อุณหภูมิสูง: ผ้าต้องไม่บิดงอ, ยืด, หด, หรือเสียรูปเมื่อใช้งานที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน
ทนทานต่อการสั่นสะเทือน: ในโรงงานที่มีเครื่องจักรทำงาน อาจมีการสั่นสะเทือน ผ้าต้องไม่เสียหายจากการสั่นสะเทือนต่อเนื่อง
ทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน (Chemical Resistance & Corrosion Control):
ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมอาจมีไอสารเคมี, กรด, ด่าง หรือน้ำมัน ผ้ากันไฟควรทนทานต่อสารเหล่านี้โดยไม่เสื่อมสภาพ
สำหรับผ้าที่ใช้หุ้มอุปกรณ์โลหะ (โดยเฉพาะสเตนเลส) ควรมี ค่าคลอไรด์ไอออนต่ำมาก (Low Chloride Content) เพื่อป้องกันการเกิด การกัดกร่อนใต้ฉนวน (Corrosion Under Insulation - CUI) ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ท่อหรืออุปกรณ์เสียหายรุนแรง
ไม่ดูดซับความชื้นและป้องกันการควบแน่น (Low Moisture Absorption & Condensation Control):
ความชื้นที่สะสมในผ้ากันไฟจะลดประสิทธิภาพการป้องกันความร้อน และอาจนำไปสู่ปัญหาการกัดกร่อนของอุปกรณ์ที่หุ้มอยู่
ผ้าบางชนิดอาจมีคุณสมบัติกันน้ำ หรือได้รับการเคลือบสารกันน้ำเพื่อเพิ่มความทนทานต่อความชื้น
น้ำหนักและความยืดหยุ่น (Weight & Flexibility):
น้ำหนัก: ควรเลือกน้ำหนักผ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากเป็นม่านกันความร้อนขนาดใหญ่ อาจต้องพิจารณาน้ำหนักเพื่อความสะดวกในการติดตั้งและการรองรับน้ำหนัก
ความยืดหยุ่น: หากต้องนำไปตัดเย็บเป็นรูปทรงซับซ้อน (เช่น ฉนวนแบบถอดได้สำหรับวาล์ว) หรือใช้คลุมอุปกรณ์ที่ไม่สม่ำเสมอ ควรเลือกผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง
เป็นมิตรต่อสุขภาพ (Health & Safety for Personnel):
ปลอดแร่ใยหิน (Asbestos-Free): สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องยืนยันว่าผ้าไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและถูกห้ามใช้
ลดการระคายเคือง: ผ้าบางชนิด เช่น ใยแก้วดิบ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจระหว่างการติดตั้งหรือใช้งาน ควรเลือกชนิดที่มีการเคลือบผิว หรือเป็นวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
การเลือกผ้ากันไฟสำหรับงานทนอุณหภูมิสูงในอุตสาหกรรมต้องพิจารณาอย่างละเอียดจากคุณสมบัติเหล่านี้ร่วมกับลักษณะการใช้งานจริงและงบประมาณ เพื่อให้ได้โซลูชันที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ