บริการทำความสะอาด: สิ่งของใช้ในบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ

[siritidaphon]

บริการทำความสะอาด: สิ่งของใช้ในบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ

นอกจากจะทำความสะอาดตามพื้น ผนัง โต๊ะ ตู้ และเตียงแล้ว คุณทำความสะอาดอะไรที่เป็นของใช้ในบ้านอีกบ้างเอ่ย เนื่องจากภายในบ้านมีข้าวของ เครื่องใช้มากมาย ก็อาจจะมีบางชิ้นที่ลืมไปบ้างว่าต้องทำความสะอาด เรารวบรวม 8 สิ่งของใช้ในบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดเป็นประจำ แต่อาจลืมทำมาฝาก หากทราบกันแล้วว่ามีอะไรบ้าง ลองนึกดูนะคะว่า คุณทำความสะอาดของใช้พวกนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? เพราะของพวกนี้ ใช้ไปนาน ๆ จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ รู้แบบนี้แล้ว รีบพุ่งตัวไปทำความสะอาดกันเลยจ้า


1.ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุกวัน

ฟองน้ำ ถือเป็นสิ่งที่สกปรกที่สุดสำหรับห้องครัวเลย เพราะเมื่อใช้ล้างภาชนะต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว มันจะถูกวางไว้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ทำให้เชื้อโรคมากมายสะสมอยู่ ทั้งแบคทีเรีย ยีสต์ และรา ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้พากันมาอาศัยอยู่ในฟองน้ำถึง 70% เลย เป็นเหตุทำให้ภาชนะที่ล้างไม่สะอาดพอ เกิดการท้องร่วง อาหารเป็นพิษได้ การฆ่าเชื้อโรคเหล่านี้ในฟองน้ำไม่ยากเลยค่ะ ชุบฟองน้ำด้วยน้ำสะอาด นำไปอบในไมโครเวฟ 2 นาที ด้วยความร้อนสูงสุด (คอยเฝ้าดูไม่ให้ฟองน้ำแห้ง เพราะอาจไหม้ได้)

เพียงเท่านี้ก็ฆ่าเชื้อโรคในฟองน้ำได้แล้ว นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนฟองน้ำล้างจานใหม่อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์


2. ซักผ้าขนหนูทุก 3 วัน

ผ้าขนหนู เป็นสิ่งที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ซึ่งบางคนก็อาจลืมไปว่าถึงเวลาต้องซักมันแล้ว มารู้ตัวอีกที เอ๊ะ...ทำไมสิวขึ้นหลัง ผดขึ้นตัว สาเหตุอาจมาจากเราใช้ผ้าขนหนูที่ไม่สะอาดอยู่ก็เป็นได้ เพราะการที่เราใช้ผ้าขนหนูแต่ละครั้ง เซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรียจากร่างกายเราจะติดผ้าขนหนูไป อีกทั้งเชื้อราที่เกิดจากความอับชื้นของผ้า และสะสมอยู่นานวันเข้า สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็จะมาเกาะที่ผิวเรา เสี่ยงต่อโรคผิวหนังได้ ฉะนั้น เราควรใช้ผ้าขนหนูไม่เกิน 6 ครั้ง ถ้าอาบน้ำเช้า-เย็น ก็คือ ไม่เกิน 3 วัน หรือถ้าผ้าขนหนูมีกลิ่นอับแล้ว ก็ควรนำไปซักทันที และหลังใช้ผ้าขนหนูเสร็จ ควรนำไปผึ่งไว้ในที่อากาศถ่ายเทหรือผึ่งในที่ที่โดนแดด เพื่อให้ผ้าขนหนูแห้ง ไม่อับชื้น จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค


3.ทำความสะอาดพรมเช็ดเท้าทุก 1 สัปดาห์

พรมเช็ดเท้าทั้งที่สำหรับใช้ก่อนเข้าบ้าน ใช้ในห้องน้ำ หรือใช้ที่ไหน ๆ ในบ้านก็ตามแต่ เพราะคนในบ้านต่างก็มาเช็ดแบบนี้ทุกวัน วันละหลายรอบ พอนานวันเข้าพรมเช็ดเท้าก็กลายเป็นแหล่งรวมความสกปรกและเชื้อโรคได้ แทนที่จะเป็นพรมเช็ดเท้าที่เช็ดให้เท้าแห้งหรือสะอาด แต่กลายเป็นว่าเชื้อโรคดันเกาะเท้าเรา แล้วเราเดินให้เชื้อโรคแพร่ไปทั่วบ้านอีก ฉะนั้น อย่าลืมนำพรมเช็ดเท้าไปซักทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 1 สัปดาห์นะคะ


4.ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนทุก 1 สัปดาห์

เมื่อเรานอนเซลล์ผิวที่ผลัดจากตัวเรา รังแค เศษผม หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะสะสมอยู่บนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน ซึ่งเป็นด่านแรก ที่ปกคลุมเครื่องนอนต่าง ๆ ของเราอยู่ จึงควรถอดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนออกมาซักทุก 1 สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 - 70 องศาเซลเซียส เพื่อกำจัดไรฝุ่น


5.ทำความสะอาดหน้าต่าง ประตู ลูกบิด

หน้าต่าง ลูกบิดประตู คุณต้องเปิดหน้าต่าง แตะลูกบิดเพื่อเข้าออกห้องไปทำกิจวัตรประจำวัน แต่คุณกลับไม่เคยทำความสะอาดหน้าต่าง ลูกบิดประตูเลย สิ่งที่แนะนำให้ทำคือเช็ดทำความสะอาดลูกบิดเพื่อกำจัดเชื้อโรค และแบคทีเรียที่อาจจะถูกทิ้งไว้ เช็กลูกบิดในแต่ละด้านของประตู และรวมไปถึงลูกบิดประตูตู้เสื้อผ้าด้วย

 
6.ซักผ้าห่ม ผ้านวมทุก 1 เดือน

พวกเราต้องสัมผัสกับผ้านวมและเครื่องนอนกันถึง 1 ใน 3 ต่อวันเลย เราจึงไม่ควรลืมใส่ใจเรื่องความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป จะทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเชื้อโรค ทั้งไรฝุ่น ที่มาจากคราบเหงื่อไคล เซลล์ผิวจากตัวเราที่หลุดออกมา ดังนั้น ควรนำผ้าห่ม ผ้านวมไปซักทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง


7.ตากแดดหมอนหนุน หมอนข้างทุก 1 เดือน

ควรนำหมอนออกไปตากแดดทุก 1 เดือน เพราะแสงแดดช่วยฆ่าพวกเชื้อโรค เชื้อราได้อยู่แล้ว และยังช่วยฆ่าพวกไรฝุ่นและทำให้ไข่ของไรฝุ่นฝ่อได้อีกด้วย ระยะเวลาในการตากแดด 2 ชั่วโมง ทำให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อได้ถึง 50% และถ้าตากไว้นานถึง 5 ชั่วโมง จะทำให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อได้ถึง 100% เลยทีเดียวค่ะ


8.ตากแดดและตบทำความสะอาดที่นอนทุก 1-3 เดือน

ควรนำที่นอนออกไปตากแดดทุก 1-3 เดือน เพื่อให้ไรฝุ่นและไข่ฝ่อ และในระหว่างที่ตากแดดนั้น ให้หาหวายหรือไม่มาตีที่นอน เพื่อให้ซากไรฝุ่น และสิ่งปฎิกูลต่าง ๆ (มูลของไรฝุ่น ไรฝุ่นที่ตายแล้ว ไข่ของไรฝุ่นที่ฝ่อ) หลุดออกไป