อาหารสุขภาพ ที่มีกากใยสูง บำรุงลำไส้การรับประทานอาหารในแต่ละวันนั้นเหตุผลหลักๆจำเป็นต้องการพลังงานจากสารอาหารที่เรารับประทาน เพื่อไปใช้ในการดูดซึมเพื่อไปเป็นพลังงานในการทำงานของระบบต่างของร่างกาย เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตั้งแต่สมัยโบราณในการรับประทานอาหารกากใย ผู้ใหญ่จะบอกเด็กๆเสมอว่าให้ทานผักผลไม้เยอะๆ เนื่องจากว่า อาหารที่กากใยมากนั้นจะยังดีต่อระบบขับถ่ายและสารอาหารที่มาด้วยกับอาหารที่กากใยเยอะนั้นก็สามารถบำรุงร่างกายให้เจริญเติบโตได้ดีด้วย โดยกากใยอาหารนั้นคือ ส่วนของพืชผัก ผลไม้หรือเมล็ดธัญพืชที่มนุษย์ได้รับประทานเข้าไปจากาอาหารแต่ละประเภท แต่จะไม่ถูกย่อยโดยน้ำย่อยของคน แต่อาจจะถูกย่อยโดยจุลินทรีย์บางชนิดในทางเดินอาหารของคน เพื่อไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไปในร่างกาย
ซึ่งประโยชน์ใยอาหารนั้นยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาล จึงมีผลดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวานที่ควบคุมอาหารไปควบคู่กับการรับประทานยา และยังช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยจับไขมันในอาหารนั่นจึงสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ ถัดมาช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกายช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และยังมีใยอาหารมีประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ของทางเดินอาหารส่วนต้น โดยการฟอร์มตัวเป็นเจลเหนียวในกระเพาะของเรา ช่วยลดการดูดซึมของไขมัน ทั้งยังช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของกระเพาะและลำไส้ และใยอาหารมีผลต่อเยื่อบุผิวในลำไส้ ทำให้เยื่อบุผิวหนังของลำไส้แข็งแรง ต่อมาช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องผูกและท้องเสีย จึงช่วยลดโอกาสการเป็นโรคริดสีดวงทวาร ลำไส้โป่งพอง รวมไปถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ และสุดท้ายใยอาหารสามารถช่วยในการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักได้ เนื่องจากทำให้ปริมาณของอาหารมีมากขึ้น มีการดูดน้ำเข้ามาในทางเดินอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว
นอกจากนี้เรายังพบข้อเสียของกากใยอาหาร แม้ว่าใยอาหารจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมายแต่การรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ใยอาหารจะไปลดการดูดซึมของสารอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง และสังกะสี เป็นต้น หรืออาจส่งผลเสียต่อทางเดินอาหารได้ เช่น อาเจียน มีแก๊สในกระเพาะและลำไส้ ลำไส้เคลื่อนไหวเร็วกว่าปกติและปวดท้อง เป็นต้น แม้สำหรับในผู้ที่ต้องให้อาหารทางสายยาง ใยอาหารที่หยาบอาจจะทำให้เกิดการอุดตันในสายยางได้ วันนี้เราจะมานำเสนอาหารที่มีกากใยว่ามีชนิดใดบ้าง
อาหารที่มีกากใยเยอะนั้นเราสามารถหาได้ง่าย เป็นอาหารหรือผลไม้ที่เรารับประทานอาหารอยู่ทุกวันด้วยซ้ำ เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าอาหารชนิดนั้นมีกากใยเยอะเพียงใด เริ่มจากเริ่มต้นจากแอปเปิ้ลที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ถัดมาคือมะละกอ มะละกอที่สุดนิ้วหวานฉ่ำมีประโยชน์อย่างมากช่วยบำรุงสุขภาพบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
เนื่องจากว่ามะละกอสุก มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนอ่อนจึงช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นไปได้ตามปกติ ถัดมาคือกล้วย กล้วยอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่ายเป็นอย่างมากจึงสามารถทำให้เราขับถ่ายได้สะดวกขึ้น และผลไม้ชนิดถัดมาคือส้มนอกจากจะยังมีวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคหวัดแล้วส้มนั้นยังมีกากใยที่จะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเรานั้นทำงานได้ดี มะม่วง มะม่วงมันมีไฟเบอร์ที่ช่วยในการให้อาหารเผาผ่านพลังงานที่เป็นส่วนเกินทำให้หมดจากอาการท้องผูกและช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มทำให้ขับถ่ายได้ง่าย มะม่วงมันมีไฟเบอร์ที่ช่วยในการให้อาหารเผาผ่านพลังงานที่เป็นส่วนเกินทำให้หมดจากอาการท้องผูกและช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มทำให้ขับถ่ายได้ง่าย ถัดมาคือแตงโม ไม่ได้มีแค่เพียงรสหวานแต่แตงโมยังช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักและยังช่วยให้ขับถ่ายคล่องอีกด้วย และสับปะรด พลไม้ชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่ายได้ดีและยังช่วยย่อยอาหารจำพวกประเภทโปรตีนได้อีกด้วย
ในการดูแลตนเองด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกต้องนั้นไม่มีทฤษฎีตายตัวเพียงแต่หากว่าเราจำเป็นจะต้องเลือกอาหารชนิดที่ดีต่อร่างกายไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ไม่บริโภคมากหรือน้อยเกินไป หากพูดถึงอาหารประเภทกากใยถ้าหากรับประทานเป็นจำนวนมากก็อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียจนรู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีแรงได้ โดยวิธีเพิ่มการย่อยอาหารที่เหมาะสมในชีวิตประจำวันนั้นควรรับประทานผลไม้แทนขนมต่างๆเลือกรับประทานผลไม้สดโดยไม่ต้องปลอกเปลือกให้มากที่สุด ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทถั่วเปลือกแข็งหรือพืชตระกูลรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากถั่วให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกรรมวิธี ที่ทำลายเส้นใยอาหาร เช่นกันเคี่ยว การขัดสี การตุ๋นจนเปื่อย รับประทานผักสดอย่างน้อยให้ได้วันละหนึ่งถึงสองถ้วย ทั้งนี้ทางเราอยากให้คุณหันมาสนใจในการใส่ใจสุขภาพโดยการเลือกอาหารที่เหมาะสมแก่ร่างกาย จากข้อความที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เป็นตัวอย่างอาหารที่ดีสำหรับบำรุงร่างกายและสามารถรับประทานได้ทุกวัน