มีใครบ้างที่เป็นหนอนหนังสือตัวยง เราเชื่อว่าแม้โลกนี้จะมีเนื้อหาเรื่องราวที่ชวนให้สนใจไหลผ่านอินเตอร์เน็ตมากมาย แต่จอมือถือหรือแทปเล็ตก็ไม่เหมือนการค่อย ๆ บรรจงอ่านตัวหนังสือที่พิมพ์ลงบนแผ่นกระดาษทีละหน้า ๆ หนังสือเล่มโปรดของใครบางคนอาจจะถูกหยิบมาอ่านทบทวนซ้ำ ๆ แล้วเก็บเอาไว้อย่างเป็นระเบียบบนชั้น หากใครที่ชื่นชอบการอ่านเหมือนกันเราลองมาดูไอเดียการทำบ้านให้เสมือนมีห้องสมุดส่วนตัว อยากหยิบไปนั่งนอนอ่านตรงไหนก็ทำได้ทุกจุดกันครับ
ด้วยความตั้งใจเพิ่มเติมในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ผนังและหลังคาจึงถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้วัสดุที่พลาสติกเป็นส่วนประกอบ และหุ้มฉนวนด้วยเส้นใยลินินตามวัฒนธรรมท้องถิ่นของพื้นที่ ส่วนหน้าอาคารตกแต่งไม้สนที่ไม่ผ่านการอาบน้ำยาเคมี พลังงานไฟฟ้าใช้โซล่าร์เซลล์ รองน้ำฝนจากหลังคาเมทัลชีทรวบรวมไว้ในถังใต้ดินที่ให้น้ำในเรือนกระจก สำหรับชั้นวางหนังสือและเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีอยู่ของครอบครัวเพื่อลดความจำเป็นในการซื้อใหม่ ด้วยเหตุนี้
ในส่วนของการตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างของสมาชิกในบ้าน สตูดิโอสถาปัตยกรรม Fria Folket รวบรวมข้อมูลพร้อมกับศึกษาสภาพแวดล้อมแล้วสร้างบ้านหลังคาจั่วอบอุ่นสไตล์นอร์ดิก มีห้องสมุดในรูปของแกลเลอรีหนังสือและห้องสตูดิโองานปั้น พร้อมส่วนใช้งานอื่นๆ ที่อยู่ล้อมลานโล่งตรงกลาง ผนังและประตูด้านในเป็นกระจกในบริเวณกว้าง เพื่อให้สามารถรับแสงและมองเห็นกันและกันได้ดี
อาคารทั้งหมด ประกอบด้วย 4 อาคาร ด้านทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจะค่อนข้างปิดจากบริเวณโดยรอบ โดยมีมุมมองที่คัดสรรมาอย่างดีเพียงไม่กี่จุด แต่ด้านทิศใต้จะเปิดออกสู่ทะเลสาบ บ้านทั้งสี่หลังถูกจัดตามลำดับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ โดยมีจุดเริ่มต้นของบ้านคือทางเข้าตรงกับจุดเริ่มต้นของวันในทิศตะวันออก แล้วดวงอาทิตย์ก็จะค่อยๆ เคลื่อนผ่านบ้านไปจนถึงทิศตะวะนตก
สำหรับการจัดฟังก์ชันและระดับความเป็นส่วนตัวภายในเป็นไปตามลูปนี้ คือ เริ่มตั้งแต่พื้นที่พบปะรับแขกสังสรรค์ ไปโถงทางเดินและห้องครัว ต่อมาจนถึงพื้นที่ส่วนตัวที่สุดที่ส่วนท้ายของวงกลม การเคลื่อนไหวตามทางเดินในบ้านจัดวางประตูหน้าต่างที่ให้สามารถรับทัศนียภาพโดยรอบได้เต็มที่ ประตูเป็นบานเลื่อนทั้งสี่ด้านซึ่งอยู่คนละมุมของห้องหนังสือ ช่วยให้เข้าถึงลานกลางบ้านได้จากทุกส่วน การสัญจรไปมาระหว่างภายใน-ภายใน และภายนอก-ภายในก็ทำได้ง่าย
ห้องเรือนกระจกสำหรับเป็นโณงเรือนปลูกต้นไม้ และทำงานศิลปะในช่วงที่อากาศหนาวเย็น บ้านจึงมีบรรยากาศของความนุ่มนวล ผ่อนคลาย เต็มไปด้วยแสง ไม่รู้สึกเหงาๆ หรือซึมเศร้าเมื่อแสงเหลือน้อยในฤดูหนาว
เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการสร้างอาคารแบบนอร์ดิกแบบเก่า จึงมีการสร้างสตูดิโอหนึ่งห้องติดตั้งเตาผิงเอาไว้ในใจกลาง เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องทำความร้อนได้จากส่วนอื่น ๆ ของบ้านเมื่ออุณหภูมิลดลง ส่วนของตู้หนังสือที่เป็นเสมือนห้องสมุดจะอยู่ติดกับทางเดิน 4 ด้าน ใครจะอ่านเมื่อไหร่ก็เดินมาหยิบได้ ส่วนหลังชั้นหลังสือ 2 จุดจะเป็นห้องสตูดิโองานปั้นเซรามิค
วัสดุภายในมีน้อยและจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย วัสดุหลักๆ ที่ใช้เป็นไม้สนธรรมชาติและตู้หนังสือสีขาว Ikea อันโด่งดังรุ่น “บิลลี่” ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกำหนดพื้นที่ห้องสมุดทั้งหมดเรียงยาวไปตามทาง บวกกับกระเบื้องลายตารางในครัว ทำให้พื้นกระเบื้องเซรามิกสีแดงอิฐโทนอบอุ่นโดดเด่นขึ้นมาทันที ผนังกระจกที่เรียงรายทำหน้าที่รับน้ำหนักโครงสร้างบ้านไปด้วยในตัว ทุกองค์ประกอบสร้างจังหวะของบ้านที่น่ามองน่าใช้งานไปทุกส่วน
บ้านสไตล์นอร์ดิกจะมีจุดเน้นที่รูปทรงหลังคาจั่วสูงแบบกระท่อม การใช้วัสดุธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมภายในอย่าง งานไม้ ผ้า สิ่งทอต่างๆ และที่สำคัญคือ สร้างพื้นที่รับแสงค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นโซนเขตหนาวจัด ช่วงเวลากลางวันสั้นกว่ากลางคืน จึงต้องพยายามรักษาอุณหภูมิภายในอาคาร เพิ่มความอบอุ่นให้มากที่สุดในในฤดูหนาว ดังนั้นการจะนำรูปแบบบ้านของโซนเขตหนาวมาใช้จำเป็นต้องศึกษาทิศทางการเดินของแสง ติดตั้งกระจกด้านที่ไม่รับแดดจัดช่วงกลางวัน หรือเลือกกระจกที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าบ้านร้อนเกินไป
บ้านเดี่ยวโคราช: บ้านนอร์ดิกของนักปั้น แบ่งพื้นที่ความสุขแม้แตกต่าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/