แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 58
1
ของขวัญวันแม่ ซื้ออะไรให้แม่ดี

คุณแม่แต่ละท่านมีความชอบที่แตกต่างกันไป การเลือกของขวัญวันแม่ที่ดีที่สุดคือการเลือกสิ่งที่ตรงใจและเป็นประโยชน์กับคุณแม่มากที่สุดค่ะ ลองพิจารณาจากแนวคิดเหล่านี้ดูนะคะ


1. ของขวัญที่เน้นสุขภาพและความผ่อนคลาย

สุขภาพของคุณแม่คือสิ่งสำคัญที่สุด และการได้พักผ่อนก็ช่วยให้ท่านมีความสุข

อุปกรณ์นวดไฟฟ้า: เช่น เครื่องนวดคอ บ่า ไหล่ หรือเครื่องนวดเท้า ช่วยคลายปวดเมื่อยหลังจากทำงานหรือกิจกรรมในแต่ละวัน

โปรแกรมสปา/นวดแผนไทย: พาคุณแม่ไปผ่อนคลายที่สปา หรือนวดแผนไทยดีๆ สักครึ่งวัน ให้ท่านได้ปรนนิบัติตัวเองอย่างเต็มที่

วิตามิน/อาหารเสริม: เลือกวิตามินที่เหมาะกับช่วงวัยและความต้องการของคุณแม่ เช่น แคลเซียม วิตามินรวม หรือคอลลาเจน (ปรึกษาเภสัชกรหรือคุณหมอก่อนเลือกซื้อจะดีที่สุดค่ะ)

น้ำหอมอโรมา/เครื่องพ่นไอน้ำ: ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุณแม่ชอบ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมมายล์ หรือไม้จันทน์หอม


2. ของขวัญที่เกี่ยวข้องกับความชอบและงานอดิเรก

หากคุณแม่มีงานอดิเรกหรืองานที่ชอบเป็นพิเศษ การเลือกของขวัญที่ส่งเสริมความสุขเหล่านี้จะทำให้ท่านประทับใจมากค่ะ

อุปกรณ์ทำสวน: ถ้าคุณแม่ชอบปลูกต้นไม้ ลองหาอุปกรณ์ทำสวนคุณภาพดี กระถางสวยๆ หรือต้นไม้พันธุ์ใหม่ที่ท่านสนใจ

อุปกรณ์ทำอาหาร/เบเกอรี่: ถ้าคุณแม่ชอบทำอาหาร ลองหาเครื่องครัวใหม่ๆ เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องปั่นประสิทธิภาพดี หรือคอร์สเรียนทำอาหาร/ขนม

หนังสือ/อุปกรณ์งานฝีมือ: สำหรับคุณแม่ที่ชอบอ่านหนังสือ หรืองานฝีมือต่างๆ เช่น ถักไหมพรม ปักผ้า วาดรูป หาหนังสือที่น่าสนใจ หรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ให้ท่านได้สร้างสรรค์ผลงาน


3. ของขวัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

ของขวัญเหล่านี้อาจดูธรรมดา แต่ใช้งานได้จริงและทำให้ชีวิตประจำวันของคุณแม่สะดวกสบายขึ้นมาก

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย/หุ่นยนต์ดูดฝุ่น: ช่วยลดภาระงานบ้าน ทำให้ท่านมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น

สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตรุ่นใหม่: หากเครื่องเก่าของคุณแม่เริ่มช้าหรือมีปัญหา การได้เครื่องใหม่ที่ดีขึ้นจะช่วยให้ท่านใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้นในการติดต่อสื่อสารหรือความบันเทิง

เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน: เช่น เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ เครื่องทำน้ำอุ่น (หากยังไม่มี) หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่คุณแม่เคยบ่นว่าอยากได้หรือจำเป็นต้องใช้


4. ของขวัญส่วนบุคคลและของขวัญที่สร้างความทรงจำ

ของขวัญประเภทนี้อาจไม่ต้องมีมูลค่าสูง แต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางจิตใจ

เครื่องประดับชิ้นพิเศษ: เช่น สร้อยคอพร้อมจี้ที่สลักชื่อย่อ หรือแหวนดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี

กระเป๋า/รองเท้า: เลือกดีไซน์และสีที่คุณแม่ชอบ หรือรุ่นที่ท่านสนใจ

เสื้อผ้า/ผ้าพันคอ: เลือกเนื้อผ้าที่ใส่สบาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์และแฟชั่นที่คุณแม่ชื่นชอบ

อัลบั้มรูป/กรอบรูปดิจิทัล: รวบรวมภาพความทรงจำดีๆ ของครอบครัวไว้ในอัลบั้ม หรืออัปโหลดรูปภาพลงในกรอบรูปดิจิทัลให้คุณแม่ได้ดูได้ตลอดเวลา

พาไปเที่ยว/ทานอาหาร: การได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันคือของขวัญที่ดีที่สุด พาคุณแม่ไปเที่ยวในสถานที่ที่ท่านอยากไป หรือพาไปทานอาหารมื้อพิเศษที่ร้านโปรดของท่าน


คำแนะนำเพิ่มเติม:

สังเกตความต้องการ: ลองสังเกตว่าช่วงนี้คุณแม่บ่นถึงอะไรเป็นพิเศษ อยากได้อะไร หรือมีอะไรที่ใช้แล้วเก่าชำรุดบ้าง

ห่อของขวัญให้สวยงาม: การห่อของขวัญอย่างพิถีพิถัน และเขียนการ์ดอวยพรด้วยลายมือ จะทำให้ของขวัญมีคุณค่าทางใจมากยิ่งขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักและความใส่ใจ: ไม่ว่าของขวัญจะเป็นอะไร การแสดงความรัก ความกตัญญู และการได้อยู่ร่วมกัน คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับคุณแม่ค่ะ

คุณพอจะนึกออกไหมคะว่าคุณแม่ของคุณน่าจะชอบของขวัญแนวไหนเป็นพิเศษ?

2
หมอออนไลน์: ทริคิโนซิส (Trichinosis/ Trichinellosis)

ทริคิโนซิส เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ทริคิเนลลาสไปราลิส (Trichinella spiralis)* ซึ่งมีอยู่ในเนื้อหมูหรือหนู มักพบเป็นพร้อมกันหลายคน ในบ้านเราเคยพบเป็นโรคระบาดทางภาคเหนือหลายครั้ง
 
*วงจรชีวิตของพยาธิทริคิเนลลาสไปราลิส

พยาธิทริคิเนลลาสไปราลิสตัวเต็มวัย (ตัวแก่) ตัวผู้มีขนาดยาวประมาณ 1.4-1.6 มม. และตัวเมียยาวประมาณ 3-4 มม. ปกติอาศัยอยู่ในเนื้อหมูหรือหนู เมื่อคน หมู หรือหนูกินเนื้อหมูหรือหนูที่มีซิสต์ของพยาธิ เมื่อตกถึงลำไส้พยาธิตัวอ่อนจะฟักตัวออกมาจากซิสต์ เจริญเป็นตัวแก่ภายใน 2-3 วัน และภายใน 5-7 วัน พยาธิตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์กัน แล้วตัวเมียจะไชและฝังตัวอยู่ในเยื่อบุลำไส้เล็กส่วนต้น (ของคน หมู หรือหนู) ออกลูกเป็นตัวอ่อน ซึ่งจะไชเข้าหลอดเลือดและท่อน้ำเหลืองเข้าไปในกระแสเลือด แล้วเข้าไปขดตัวอยู่ในกล้ามเนื้อ (ของคน หมู หรือหนู) ประมาณวันที่ 9-23 หลังจากกินซิสต์ พยาธิจะเจริญเติบโตจนเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ แล้วเกิดมีซิสต์หุ้ม ถ้าซิสต์ไม่ได้ถูกกินตัวอ่อนในซิสต์จะตายและมีหินปูนมาจับ

สาเหตุ

เกิดจากการกินเนื้อหมูหรือหนูที่มีซิสต์ของพยาธิทริคิโนซิส และไม่ได้ทำให้สุก เช่น ลาบ แหนม เป็นต้น

อาการ

ขึ้นกับปริมาณพยาธิที่รับเข้าร่างกาย ถ้าปริมาณน้อยก็อาจไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น แต่ถ้าปริมาณมากก็จะมีอาการแสดง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 ระยะพยาธิอยู่ในลำไส้ หลังจากผสมพันธุ์กันแล้ว ตัวเมียฝังตัวในลำไส้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หลังกินเนื้อหมูที่มีซิสต์ของพยาธิประมาณ 24-72 ชั่วโมง และจะมีอาการอยู่นาน 1-7 วัน

ระยะที่ 2 ระยะที่พยาธิตัวเมียออกลูกพยาธิตัวอ่อน (larvae) ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์หลังกินซิสต์ของพยาธิ พยาธิตัวอ่อนจะไชผ่านผนังลำไส้เข้าไปในกระแสเลือด แล้วไชเข้าไปอยู่ตามกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ซึ่งสามารถมีชีวิตอยู่ในกล้ามเนื้อนานเป็นเดือน ๆ หรือปี ๆ

หลังกินซิสต์ของพยาธิ 2-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะเกิดอาการจากพยาธิตัวอ่อนฝังตัวอยู่ตามกล้ามเนื้อ โดยมีไข้สูง (ซึ่งอาจเป็นอยู่นาน 1-2 สัปดาห์) หนาวสั่น ปวดศีรษะ เจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ อาจมีอาการบวมที่หนังตา (ประมาณวันที่ 12-14 ของโรค) กลัวแสง เยื่อตาขาวอักเสบ (เคืองตา ตาแดง) ผิวหนังมีอาการคันหรือมีผื่นขึ้น

ถ้ามีปริมาณพยาธิจำนวนมาก อาการเจ็บปวดกล้ามกล้ามเนื้อจะรุนแรง จนทำให้เคลื่อนไหว หายใจ เคี้ยว กลืน หรือพูดลำบาก อาการจะเป็นอยู่นานหลายเดือนแล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น

ระยะที่ 3 ระยะที่พยาธิตัวอ่อนมีซิสต์หุ้ม ผู้ป่วยจะค่อย ๆ ดีขึ้น ไข้ลดลงและอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อค่อย ๆ ทุเลาลง ซิสต์จะยังคงอยู่ในกล้ามเนื้อตลอดไป โดยพยาธิในซิสต์จะตายและมีหินปูนมาจับ ซึ่งสามารถตรวจพบโดยการเอกซเรย์


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่จะพบได้น้อย ยกเว้นในกรณีที่มีการติดเชื้อรุนแรง ตัวอ่อนอาจเข้าในอวัยวะสำคัญ ๆ ทำให้ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถ้าเป็นรุนแรงอาจตายหลังเกิดโรคประมาณ 4-6 สัปดาห์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ระยะที่ 1 และ 3 มักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน (นอกจากอาการปวดท้อง ท้องเดิน)

ระยะที่ 2 ไข้ หนังตาบวม ตาแดง อาจพบผื่นตามผิวหนัง  เคลื่อนไหว หายใจ เคี้ยว กลืน หรือพูดลำบาก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด ซึ่งจะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติและมีจำนวนอีโอซิโนฟิล (eosinophil) สูงถึงร้อยละ 10-90

นอกจากนี้อาจทำการทดสอบทางน้ำเหลือง (serologic test) เพื่อตรวจหาสารภูมิต้านทานต่อพยาธิชนิดนี้ การตัดชิ้นเนื้อจากกล้ามเนื้อ (เช่น ที่น่อง) หรือลำไส้ไปตรวจหาตัวพยาธิ

ถ้าสงสัยมีพยาธิในสมอง อาจเจาะหลังนำน้ำไขสันหลังไปตรวจ


การรักษาโดยแพทย์

1. ในระยะพยาธิอยู่ในลำไส้ นอกจากให้การรักษาตามอาการ เช่น นอนพัก ให้ยาแก้ปวดลดไข้ ให้น้ำเกลือแล้ว แพทย์จะให้ยาฆ่าพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล, อัลเบนดาโซล เป็นต้น

2. ในระยะพยาธิอยู่ในกล้ามเนื้อ ถ้ามีการอักเสบรุนแรง ให้เพร็ดนิโซโลน พร้อมกับให้ยาฆ่าพยาธิดังกล่าว ซึ่งอาจได้ผลสู้ระยะพยาธิอยู่ในลำไส้ไม่ได้

ผลการรักษา ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรกมักจะหายเป็นปกติ แต่ถ้าปล่อยให้มีภาวะแทรกซ้อนทางสมองหรือหัวใจ ก็มักมีความยุ่งยากในการรักษาและได้ผลไม่ดี


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น หลังกินเนื้อหมู หนู ม้า หรือเนื้อสัตว์ป่าดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ 24-72 ชั่วโมงมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือหลังกินเนื้อหมู หนู ม้า หรือเนื้อสัตว์ป่าดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ 5-7 วันมีอาการไข้สูง เจ็บปวดตามกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะมาก เจ็บหน้าอกมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว ชัก หรือหายใจหอบ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคทริคิโนซิส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการไข้สูง เจ็บปวดตามกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะมาก เจ็บหน้าอกมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว ชัก หรือหายใจหอบ
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    มีอาการสงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ)


การป้องกัน

    กินเนื้อหมูที่ปรุงให้สุกด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 71 องศาเซลเซียส ไม่กินเนื้อหมูดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ  (เช่น ลาบ แหนม เป็นต้น) หรือเนื้อหมูที่รมควัน หมักเกลือ หรือปรุงด้วยไมโครเวฟ
    ไม่กินเนื้อหนู ม้า หรือเนื้อสัตว์ป่าดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ
    ล้างอุปกรณ์ (เช่น เครื่องบดเนื้อ มีด เขียง) ที่ใช้เตรียมเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ให้สะอาด ป้องกันไม่ให้มีตัวพยาธิเปรอะเปื้อน
    ไม่ใช้เนื้อสัตว์ดิบป้อนหมูที่เลี้ยง
    ควบคุมโรงฆ่าสัตว์ไม่ให้นำหมูที่ป่วยเป็นโรคทริคิโนซิสมาให้คนบริโภค

ข้อแนะนำ

นอกจากหมูและหนูแล้ว ยังอาจพบพยาธิชนิดนี้ในม้าและสัตว์ป่า (เช่น หมูป่า หมี สุนัขจิ้งจอก เป็นต้น) จึงควรป้องกันการได้รับอันตรายจากโรคทริคิโนซิสด้วยการไม่กินเนื้อสัตว์เหล่านี้แบบดิบ ๆ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ

3
จัดฟันบางนา: วิธีดูแล “ฟันปลอม” และสัญญาณเตือนอันตราย !

ฟันปลอม หรือที่ทางการแพทย์จะเรียกว่า ฟันเทียม คือ สิ่งประดิษฐ์ทางทันตกรรม เพื่อใช้ในการทดแทนฟันแท้ตามธรรมชาติที่เสียหายจากโรคต่างๆ หรือจากอุบัติเหตุ ที่รักษาเบื้องต้นไม่ได้ต้องทำการถอนออก

โดยประโยชน์ของฟันปลอมนั้นก็คือตัวแทนของฟันแท้ตามธรรมชาติ ที่คอยทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารต่างๆ เสริมบุคลิกภาพ ช่วยให้การออกเสียงออกมาชัดเจน และที่สำคัญคือป้องกันการล้มเอียงของฟันซี่ข้างเคียง เพื่อรักษาสภาพช่องปากให้สมบูรณ์ที่สุด

ซึ่งในวันนี้จะขอพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีดูแลรักษา และสัญญาณเตือนต่างๆเกี่ยวกับฟันปลอม ดังต่อไปนี้

การดูแลช่องปาก และ การทำความสะอาดฟันปลอม

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า การดูแลความสะอาดฟันปลอม กับ การดูแลความสะอาดฟันแท้นั้นไม่มีความแตกต่างกันเลย เพราะ ฟันปลอมก็เปรียบได้ดั่งฟันแท้ตามธรรมชาติ หากว่าฟันปลอมไม่สะอาด ก็จะสามารถนำพาโรคร้ายแรงในช่องปากต่างๆ เช่น โรคปริทันต์ ฟันผุ และการติดเชื้อราในช่องปากได้อีกด้วย จึงควรดูแลความสะอาดของฟันปลอมให้เหมือนดูแลความสะอาดฟันแท้ตามธรรมชาติ

นอกจากจะดูแลความสะอาดของฟันปลอมแล้วที่สำคัญคือ การดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดไปตามกันด้วย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังต่อไปนี้

– หากว่าเป็นฟันปลอมชนิดแบบติดแน่น การดูแลนั้นถือว่าไม่ยาก ไม่วุ่นวาย คือ ดูแลทำความสะอาดเหมือนฟันแท้ตามธรรมชาติ แปรงฟันตามธรรมดาด้วยวิธีที่ถูกต้อง และใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังจากแปรงฟัน แต่ควรรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี และสม่ำเสมอเนื่องจากว่าหากมีการฟันผุ จะมีการรักษาที่ซับซ้อน

– หากว่าคุณใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ ควรถอดนำฟันปลอมออกมาล้าง ถูด้วยแปรงสีฟันที่ใส่ยาสีฟัน หรือสบู่ เพื่อกำจัดคราบเศษอาหารที่เกาะติดแน่น และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทำการแช่น้ำด้วยสารละลายเฉพาะสำหรับล้างฟันปลอม เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย โดยให้แช่ทิ้งไว้ทั้งคืน

– ในขณะที่กำลังทำความสะอาดฟันปลอมแบบถอดได้นั้น ควรมีภาชนะใส่น้ำรองรับด้านล่างทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดหลุดมือและตกแตก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ปล่อยมากในผู้ที่ใส่ฟันปลอมแบบถอดได้

– ไม่ควรถอดฟันปลอมทิ้งไว้เฉยๆ ควรให้ฟันปลอมมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา เพราะหากว่าฟันปลอมแห้ง อาจะเกิดปัญหาฟันปลอมเปลี่ยนรูปทรงได้


สัญญาณจาก “ฟันปลอม” ควรพบทันตแพทย์

ผู้ที่ใส่ฟันปลอม ไม่ว่าจะเป็นแบบถอดได้ หรือแบบติดแน่น ควรไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ขาด เพื่อตรวจสภาพปัญหาต่างๆที่อาจจะเป็นได้หลังจากใส่ฟันปลอม เพื่อให้ฟันปลอมที่ใส่มีอายุยืนยาว และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีหลายคนที่อาจจะพบกับสัญญาณเตือนต่างๆแต่อาจจะมองข้าม ทำให้อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาภายหลังได้ ซึ่งสัญญาณเตือนต่างๆที่เมื่อเป็นแล้วควรพบทันตแพทย์โดยเร็ว มีดังต่อไปนี้

– ในขณะที่พูดคุยฟันปลอมมีเสียงแปลกๆ

– เมื่อใส่ไปซักระยะ หรือในระยะเริ่มต้น เริ่มมีอาการรู้สึกว่าฟันปลอมนั้นไม่แนบสนิท มีอาการหลวมแม้นิดหน่อยก็ห้ามนิ่งเฉยเด็ดขาด

– เมื่อใส่ฟันปลอมแล้วรู้สึกอึดอัด แน่นเกินไปจนทำให้การขยับปาก หรือพูดคุยไม่ค่อยถนัด

– ฟันปลอมเริ่มมีความโทรมอย่างเห็นได้ชัด อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาด ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาจจะนำพาโรคช่องปากอื่นๆมาด้วยก็เป็นได้

– เริ่มมีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโรคในช่องปาก เช่น เริ่มมีเลือดออกตามไรฟัน มีกลิ่นปาก หรือมีโรคเหงือก หรือฟันผุ ควรให้ทันตแพทย์วินิจฉัยหาทางแก้ไขโดยด่วน

อยากว่าพบปัญหาที่กล่าวมาต่างๆเหล่านี้ ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยหรือละเลย เพราะหากว่าไม่รีบทำการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เกิดการใส่ฟันปลอมที่ไม่สบายช่องปาก เกิดอาการเมื่อยปาก พูดไม่ถนัด ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เกิดโรคในช่องปากต่างๆได้ง่าย จนนำไปสู่การติดเชื้อได้ในที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ฟันปลอม มีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน หากดูแลรักษาให้ดี


4
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


5
ตรวจโรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง (Ankylosing spondylitis)

ข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง (ข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดยึดติด ก็เรียก) คือโรคที่ภาวะการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังแบบเรื้อรัง และค่อย ๆ รุนแรงขึ้นจนมีการเชื่อมต่อ (ยึดติด) กันของข้อต่อกระดูก พบได้ประปราย ซึ่งพบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบในคนหนุ่มสาว และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยาภูมิต้านตนเองต่อเนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อกระดูกต่าง ๆ

สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม


อาการ

ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการปวดข้อ โดยเฉพาะปวดหลังหรือบั้นเอว เมื่ออายุประมาณ 20 ปี (ระหว่าง 10-30 ปี) เริ่มปวดเมื่อมีอายุมากกว่า 30 ปีพบได้น้อย

บริเวณที่ปวด เรียงลำดับตามที่พบมาก ได้แก่ บั้นเอว แก้มก้น ทรวงอก หัวเข่า ส้นเท้า หัวไหล่ และข้อมือ ในระยะแรกมักมีอาการปวดเป็นครั้งคราว และดีขึ้นจากการกินยาแก้ปวด ที่เด่นชัดคือ จะปวดหลังมากเวลานอนโดยเฉพาะในช่วงเช้า

บางครั้งจะปวดมากจนต้องตื่นนอน อาจมีอาการหลังแข็ง และดีขึ้นหลังจากได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย

บางรายอาจรู้สึกปวดเมื่อยง่ายหลังทำงานหรือเล่นกีฬา

บางรายอาจมีอาการปวดร้าวลงขาแบบรากประสาทถูกกด

ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไปพบแพทย์หลังมีอาการ 6 เดือนถึง 3 ปี อาการจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นในระยะ 10-20 ปี แล้วอาจทุเลาหรือหายไปได้เอง หรืออาจปวดเฉพาะที่บั้นเอวหรือข้อสะโพก แต่บางรายอาการอักเสบอาจลุกลามไปตามข้ออื่น ๆ หรืออวัยวะอื่น ๆ เช่น ม่านตา (iris) หัวใจ ทางเดินอาหาร ปอด เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ข้อต่อสันหลังเชื่อมติดกันจนมีความพิการ คือ หลังโก่ง

ข้อสะโพกติดแข็งจนยืนและเดินไม่ได้

ข้อต่อกระดูกซี่โครงติดแข็ง ทำให้สมรรถภาพปอดลดลง อาจเกิดการติดเชื้อในปอด ปอดอักเสบได้

ข้อขากรรไกรแข็ง ทำให้กลืนลำบาก

ประสาทสันหลังส่วนล่างผิดปกติ เกิดอาการปวดขา ขาอ่อนแรง กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่ได้

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ม่านตาอักเสบ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกรั่ว (aortic insufficiency)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในระยะแรกเริ่ม อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

เมื่อเป็นมากขึ้น จะพบอาการกดหรือคลำถูกเจ็บตรงข้อที่ปวด หรือใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ตรงกลางหลังจะเจ็บมากขึ้น

อาจตรวจพบว่า ผู้ป่วยก้มงอบั้นเอวลงด้านหน้าได้น้อยกว่าปกติ เรียกว่า การทดสอบแบบโชเบอร์ (Schober test)

การวัดรอบทรวงอกดูการขยายตัวเมื่อหายใจเข้าเต็มที่ จะพบว่าขยายขึ้นได้น้อยกว่าคนปกติ (ขยายได้ต่ำกว่า 5 ซม. ในชายหนุ่ม)

ในรายที่มีอาการรุนแรงและละเลยการรักษาที่ถูกต้องเป็นแรมปีจะมีลักษณะเฉพาะ คือ หลังแข็งทั้งท่อนและโก่ง (kyphosis) ตาไม่สามารถมองตรงไปข้างหน้า บางรายสะโพกแข็งแบบอยู่ในท่านั่ง ทำให้ยืนและเดินไม่ได้

บางรายอาจมีม่านตาอักเสบ คือ มีอาการปวดตาตาแดงร่วมด้วย เรียกว่า กลุ่มอาการไรเตอร์ (Reiter’s syndrome) หรืออาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกรั่ว (aortic insufficiency) ซึ่งใช้เครื่องฟังตรวจหัวใจได้ยินเสียงฟู่

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด ซึ่งจะพบค่าอีเอสอาร์ (ESR) และ C-reactive protein สูงกว่าปกติ

การตรวจเอกซเรย์ และการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะพบความผิดปกติของข้อต่อสันหลังและข้อต่อสะโพก (sacroiliac joint) ในระยะที่โรคเป็นมากแล้ว

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การบรรเทาอาการปวด อักเสบ และป้องกันความพิการ โดย

1. ให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน ถ้าไม่ได้ผลแพทย์จะให้ยากลุ่ม Disease-modifying antirheumatic drugs (DMARDs) เพิ่มเติม เช่น เมโทเทรกเซต (methotrexate), ซัลฟาซาลาซีน (sulfasalazine) เป็นต้น

2. กายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยคงรูปทรงในท่าตรงให้สามารถยืนและนั่งตรงได้ และรักษามุมการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง สะโพก คอ และทรวงอกไว้

3. การผ่าตัดสำหรับระยะท้ายของโรคที่มีการติดแข็งของข้อ เช่น การเปลี่ยนข้อสะโพก การดัดกระดูกเอวที่โก่งโค้งให้ตรง เป็นต้น

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถช่วยตัวเองได้ ยกเว้นผู้ที่ละเลยการรักษา อาจพบมีความพิการได้ประมาณร้อยละ 10 หากข้อสันหลังและข้อสะโพกยังมีความยืดหยุ่นหลังมีอาการเกิน 10 ปี ก็มักจะปลอดจากความเสี่ยงที่ข้อจะติดแข็ง

ผลการรักษา โรคนี้มักเป็นเรื้อรัง ระยะและความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปตามสภาพของแต่ละคน ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และรู้จักดูแลตนเองอย่างเหมาะสม ก็อาจช่วยให้ผู้ป่วยคงสภาพการทำงานของร่างกายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดหลังหรือบั้นเอวเรื้อรัง มีลักษณะปวดมากเวลานอนโดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือบางครั้งปวดมากจนต้องตื่นนอน หรือมีอาการหลังแข็ง และดีขึ้นหลังจากได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หมั่นฝึกทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ การบริหารเน้นการเหยียดตรงของหลังและคอ
    รักษาอิริยาบถการยืน เดิน นั่ง นอน ให้หลังอยู่ในท่าตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
    นอนบนที่นอนแข็ง (ไม่ควรใช้หมอนหนุนใต้เข่าเพื่อลดปวดเหมือนโรคปวดหลังทั่วไป) หลีกเลี่ยงการใช้หมอนสูงเพื่อป้องกันมิให้คอโก่งโค้ง
    เมื่อมีอาการปวด อาจใช้ความร้อนช่วย (เช่น อาบน้ำอุ่น ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ) และบีบนวด
    ผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการข้อติดแข็ง สามารถเล่นกีฬาได้ทุกประเภท ยกเว้นประเภทที่ต้องก้มหลัง เช่น ถีบจักรยาน โบว์ลิ่ง ตีกอล์ฟ เป็นต้น
    ฝึกการหายใจเข้าออกลึก ๆ วันละ 10-20 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า
    งดสูบบุหรี่ เพื่อป้องภาวะแทรกซ้อนของทางเดินหายใจ
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลามโดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

ข้อแนะนำ

โรคนี้ในระยะแรกจะมีอาการปวดเหมือนโรคปวดกล้ามเนื้อหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือรากประสาทถูกกด ข้อเสื่อม แต่ถ้าพบเป็นเรื้อรังในชายหนุ่ม ซึ่งมีอาการปวดตอนเช้าก่อนตื่นนอน และอาการทุเลาหลังบริหารร่างกาย ก็ควรนึกถึงโรคนี้


6
สร้างอาชีพ ไอเดียตกแต่งร้านอาหารเล็กๆสุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกเทรนด์สร้างความประทับใจกับลูกค้าไม่รู้ลืม

การบริหารร้านอาหารขนาดเล็กไม่ได้หมายถึงแค่การเสิร์ฟอาหารอร่อยๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น น่าจดจำและมีสไตล์ที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าเทรนด์การตกแต่งภายในจะเปลี่ยนแปลงไปทุกปี แต่ไอเดียการตกแต่งบางอย่างก็ยังคงความคลาสสิก หากคุณต้องการให้ร้านอาหารขนาดเล็กของคุณดูทันสมัย ​น่าอยู่และอินเทรนด์อยู่เสมอ

การออกแบบร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำและใช้งานได้จริง นี่คือไอเดียการตกแต่งสุดเก๋ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้

1. การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมแสงไฟโทนอบอุ่น
สไตล์มินิมอลคือสไตล์การออกแบบที่ไม่เคยตกยุค ตกแต่งภายในร้านอาหารของคุณให้ดูเรียบง่าย เป็นระเบียบ และใช้งานได้จริง เลือกใช้โทนสีกลางๆ เช่น สีขาว สีเบจ หรือสีเทาอ่อน และเสริมด้วยไม้
เคล็ดลับ:โคมไฟห้อยโทนอุ่นหรือหลอดไฟเอดิสันจะทำให้ร้านอาหารเล็กๆ ดูอบอุ่นและมีสไตล์ได้ทันที

2. การผสมผสานขององค์ประกอบธรรมชาติ
การนำธรรมชาติเข้ามาในบ้านคือเคล็ดลับการออกแบบที่ได้ผลเสมอ ต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ หินตกแต่ง และเก้าอี้หวาย สามารถเปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็นมุมรับประทานอาหารที่สดชื่นได้
เพิ่มกระถางต้นไม้เล็กๆไว้บนโต๊ะ
ใช้สวนแนวตั้งหรือไม้แขวนเพื่อประหยัดพื้นที่
เลือกการตกแต่งด้วยไม้สำหรับโต๊ะและเคาน์เตอร์

3. ครัวเปิดหรือเคาน์เตอร์บาร์
ร้านอาหารขนาดเล็กสามารถดูทันสมัยได้ด้วยการจัดแสดงเบื้องหลัง การออกแบบ ครัวแบบเปิดหรือเคาน์เตอร์บาร์ช่วยให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการเตรียมอาหาร ซึ่งสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีชีวิตชีวาและมีส่วนร่วม

4. กำแพงศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราว
แทนที่จะใช้ผนังเรียบๆ ให้ใช้ผนังเหล่านี้เป็นผืนผ้าใบ:
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือแนวคิดของร้านอาหารของคุณ
เมนูกระดานดำสำหรับรูปลักษณ์สบายๆ และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
งานศิลปะใส่กรอบ ภาพถ่ายขาวดำ หรือโปสเตอร์วินเทจ
แนวทางนี้ช่วยเพิ่มความมีเอกลักษณ์โดยไม่จำเป็นต้องตกแต่งราคาแพง

5. สไตล์อินดัสเทรียลชิค
ลุคอินดัสเทรียลที่สะท้อนผนังอิฐเปลือย พื้นคอนกรีต และโคมไฟโลหะ เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ยังคงความคลาสสิก มีสไตล์ ประหยัดงบ และดูแลรักษาง่าย แม้แต่ร้านอาหารเล็กๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศแบบนี้ได้ เพียงแค่เพิ่มองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ เช่น เก้าอี้โลหะ โคมไฟแขวน หรือชั้นวางของเหล็ก

6. การจัดที่นั่งที่สะดวกสบาย
ในร้านอาหารขนาดเล็ก พื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูดีทันสมัยและประหยัดพื้นที่:
เก้าอี้พับได้หรือซ้อนได้
ม้านั่งยาวริมผนัง
ใช้โต๊ะกลมแทนโต๊ะสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มความจุให้สูงสุด

7. การใช้กระจกอย่างชาญฉลาด
กระจกเป็นเทคนิคคลาสสิกที่ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กดูใหญ่และสว่างขึ้น กระจกที่จัดวางอย่างเหมาะสมสามารถสร้างมิติ สะท้อนแสงธรรมชาติ และทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งและน่าอยู่มากขึ้น

8. ชิ้นส่วนตกแต่งลายเซ็น
ร้านอาหารทุกแห่งควรมีสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าจดจำได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ของคุณ
ป้ายนีออนพร้อมวลีเด็ด
โคมไฟระย้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ผนังที่เต็มไปด้วยรูปโพลารอยด์ของลูกค้า
สัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์นี้ช่วยให้ร้านอาหารของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง

9. มุมสบายๆ สำหรับช่วงเวลา Instagram
โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ไม่มีค่าใช้จ่าย การออกแบบมุมเล็กๆ สำหรับถ่ายภาพจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าแบ่งปันประสบการณ์ออนไลน์ เพิ่ม:
ผนังฉากหลังสุดเก๋
เก้าอี้หรือโซฟาสุดเทรนด์
แสงไฟประดับเพื่อการเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบ

10. การตกแต่งตามฤดูกาลและยืดหยุ่น
เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ ลองปรับเปลี่ยนการตกแต่งให้เข้ากับฤดูกาล เปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ดอกไม้ งานศิลปะติดผนัง หรือของตกแต่งกลางโต๊ะ ให้เข้ากับเทศกาลและโอกาสต่างๆ วิธีนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นโดยไม่ต้องตกแต่งใหม่ทั้งหมด

การตกแต่งร้านอาหารขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมาย แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการเลือกสรรอย่างชาญฉลาด การเน้นองค์ประกอบการออกแบบเหนือกาลเวลา เช่น วัสดุธรรมชาติ แสงไฟโทนอบอุ่น กลิ่นอายแบบอินดัสเทรียล และการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ร้านอาหารของคุณดูทันสมัยและน่าอยู่อยู่เสมอ สิ่งสำคัญคือความสมดุล: สร้างพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง สะดวกสบาย และน่าจดจำสำหรับลูกค้าของคุณ การสร้างร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ไม่มีตกเทรนด์คือการสร้างสรรค์จากความเป็นตัวเอง ผสมผสานกับการใช้งานได้จริงและลงทุนในรายละเอียดที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ด้วยกลยุทธ์การตกแต่งที่ถูกต้อง แม้แต่ร้านอาหารเล็กๆ ก็สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างมาก และไม่เคยตกเทรนด์การออกแบบเลย


7
เช่ารถรับจ้างขนของพังงา รถหกล้อรับจ้าง แหล่งรถทั้งใหญ่และเล็กสำหรับความหลากหลายของสินค้า

รถรับจ้างขนของพังงา : รถขนของครบวงจรสำหรับทุกขนาดของสินค้า

พังงาเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและกำลังมีความนิยมอย่างต่อเนื่อง การขนสินค้าและพัสดุไป-มาในพื้นที่นี้เป็นเรื่องสำคัญเพื่อรองรับกิจกรรมนำเข้าและส่งออกต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยว บริการรถรับจ้างขนของพังงามีความสำคัญมากเนื่องจากความหลากหลายของสินค้าและของส่งที่ต้องขนส่ง ตรงนี้เราจะพิจารณาประเภทของรถรับจ้างขนของที่มีให้บริการรถรับจ้างขนของ

    รถบรรทุกขนาดใหญ่ : รถรับจ้างขนของขนาดใหญ่มักมีความจุใหญ่เหมาะสำหรับขนสินค้าขนาดใหญ่เช่นวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าอื่น ๆ ที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่
    รถกระบะ : รถกระบะมักเหมาะสำหรับการขนสินค้าขนาดเล็กถึงกลาง เช่น พัสดุส่วนตัว พวกกระเป๋าเดินทาง หรือสินค้าสั่งซื้อออนไลน์
    รถกระบะตู้ทึบ : รถรับจ้างขนของขนาดตู้มักมีความหลากหลายในการปรับใช้ สามารถนำสินค้าแบบขนาดเล็กถึงกลางโดยปรับแต่งพื้นที่ขนสินค้าตามความต้องการ

การเลือกใช้ประเภทของรถรับจ้างขนของที่เหมาะสมขึ้นกับลักษณะของสินค้าและปริมาณของสินค้าที่ต้องขนส่ง รถรับจ้างขนของพังงา มักมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมความต้องการของคุณเพื่อให้การขนสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรติดต่อกับบริการรถรับจ้างเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหลากหลายของรถรับจ้างขนของที่พร้อมให้บริการในพังงาและคำแนะนำในการเลือกประเภทของรถที่เหมาะสมสำหรับคุณ

    เลือกสำรองรถรับจ้างขนของ : ความหลากหลายของรถสำหรับความสะดวกสบาย

การเลือกใช้บริการรถรับจ้างขนของพังงาเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้การขนสินค้าของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสะดวกสบาย พังงามีรถรับจ้างขนของที่มาในหลายประเภทและขนาด ดังนี้

    ความหลากหลายของรถ : คุณสามารถเลือกรถรับจ้างขนของในพังงาตามประเภทของสินค้าที่คุณต้องการขนส่ง เช่น รถบรรทุกใหญ่สำหรับวัสดุก่อสร้างหรือรถกระบะสำหรับพาสดุเล็ก ๆ
    คุณสมบัติพิเศษ : บางบริการรถรับจ้างขนของมีคุณสมบัติพิเศษเช่นระบบ GPS การตรวจสอบความปลอดภัย หรือการติดต่อฉุกเฉิน ซึ่งทำให้การขนสินค้าเป็นไปอย่างปลอดภัย
    ความสะดวกสบายในการสำรองรถ : ระบบสำรองรถออนไลน์ที่สะดวกสบายใช้ง่ายและทำให้คุณสามารถเลือกวันเวลาที่ต้องการให้รถรับจ้างขนของมารับของของคุณ
    การบริการส่วนตัว : บางบริการรถรับจ้างขนของมีทีมงานที่ให้บริการตัวต่อตัวเพื่อช่วยคุณในกระบวนการขนสินค้า
    ราคาและการเปรียบเทียบ : คุณสามารถเปรียบเทียบราคาและคุณภาพของบริการรถรับจ้างขนของต่าง ๆ เพื่อเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานขนสินค้าของคุณ

การเลือกใช้ บริการรถรับจ้างขนของพังงา ที่มีความหลากหลายและเน้นความสะดวกสบายจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าสินค้าของคุณจะถูกขนส่งอย่างถูกต้องและตามความต้องการของคุณ ทั้งนี้ ควรตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการรถรับจ้างขนของที่มีอยู่ในพังงาเพื่อเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับความต้องการของคุณรถหกล้อรับจ้าง ใกล้ฉัน

   
คุณสมบัติของรถบรรทุก

คุณสมบัติของรถบรรทุกมักเป็นข้อมูลสำคัญเมื่อคุณต้องการเลือกใช้รถบรรทุกเพื่อขนสินค้าหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณต้องการขนส่ง คุณสมบัติของรถบรรทุกรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความจุ ความสามารถในการเดินทางในสภาพที่ต่าง ๆ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย นี่คือคุณสมบัติที่สำคัญของรถบรรทุก

    ความจุ : ความจุของรถบรรทุกหมายถึงจำนวนสินค้าหรือสิ่งของที่สามารถขนส่งได้ในรถ มีหลายประเภทของรถบรรทุกที่มีความจุต่าง ๆ อย่างรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถกระบะ หรือรถตู้
    การนำสินค้า : คุณสมบัตินี้เกี่ยวกับวิธีการนำสินค้าลงในรถบรรทุก รถบรรทุกบางคันมีแผงลาดที่ทำให้นำสินค้าลงล่างได้สะดวก และบางคันมีลิฟท์หรือกรอสอาเรย์สำหรับการนำสินค้าขึ้นลงได้
    การเคลื่อนที่ : ความสามารถในการเคลื่อนที่ของรถบรรทุกคือความสามารถในการเดินทางในสภาพถนนที่แตกต่างกัน เช่น ถนนที่ลาด ถนนดง หรือถนนแคบ
    ความปลอดภัย : คุณสมบัติที่เกี่ยวกับความปลอดภัยรวมถึงระบบเบรก ระบบความปลอดภัย และคุณสมบัติการควบคุมระบบในรถบรรทุก
    ความสะดวกสบาย : ความสะดวกสบายของรถบรรทุกอาจเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบนำทาง GPS ระบบเครื่องปรับอากาศ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่ทำให้การขนสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
    คุณภาพและประสิทธิภาพ : คุณสมบัตินี้เกี่ยวข้องกับคุณภาพของรถและความประสิทธิภาพในการขนสินค้า รถบรรทุกที่ให้บริการควรมีความนิยมในการทำงานเป็นระยะเวลานานและมีความเชี่ยวชาญในการขนสินค้า
    ความเร็ว : ความเร็วของรถบรรทุกอาจเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อคุณต้องการส่งสินค้าไปถึงที่หมายในระยะเวลาที่กำหนด
    การบำรุงรักษา : ควรพิจารณาความจำเป็นในการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงของรถบรรทุกเพื่อให้รถทำงานได้อย่างถูกต้อง
    เงื่อนไขในการเช่า : ถ้าคุณเช่ารถบรรทุกในการขนสินค้า ควรตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาเช่าและค่าบริการ

คุณสมบัติของรถบรรทุกมีความสำคัญเพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้รถที่เหมาะสมสำหรับงานขนสินค้าของคุณ โดยพิจารณาคุณสมบัติเหล่านี้ คุณสามารถเน้นความสามารถในการขนสินค้าที่ดีและความสะดวกสบายในการใช้บริการรถบรรทุก

   
วิธีติดต่อขอใช้บริการรถรับจ้างขนของพังงาน

    ค้นหาบริการรถรับจ้าง : ค้นหาบริการรถรับจ้างขนของที่ให้บริการในพังงา โดยใช้เครื่องมือค้นหาออนไลน์ เช่น Google หรือดูในโฟลเดอร์โทรศัพท์ท้องถิ่น
    ติดต่อผ่านโทรศัพท์ : หลังจากค้นหาแล้ว คุณสามารถติดต่อบริการรถรับจ้างขนของที่คุณสนใจผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้ในประกาศหรือเว็บไซต์ของพวกเขา แจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับความต้องการของคุณ เช่น ประเภทของสินค้า ปริมาณ สถานที่ส่งสินค้า และวันที่ที่คุณต้องการให้ขนสินค้า
    สอบถามราคาและเงื่อนไข : ขณะที่คุณติดต่อผ่านโทรศัพท์ คุณควรสอบถามเกี่ยวกับราคาและเงื่อนไขในการเช่ารถ ระบบเบรก ประวัติการขนสินค้า และการรับสินค้าและส่งสินค้า
    ระบุรายละเอียด : ระบุรายละเอียดที่จำเป็นเพื่อบริการรถรับจ้างเข้าใจความต้องการของคุณ อาจจะต้องระบุน้ำหนัก ขนาด ความห่วงโซ่สำหรับสินค้า หรือเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญ
    ตกลงเรื่องราคาและเวลา : เมื่อคุณตกลงเรื่องราคาและเวลาที่ต้องการให้รถรับจ้างขนของมารับสินค้า คุณควรยืนยันรายละเอียดทางการเงินและขนสินค้า
    ระบุสถานที่ส่งสินค้า : ระบุสถานที่ส่งสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้รถรับจ้างขนของสามารถมารับสินค้าได้ตามที่ต้องการ
    ยืนยันการจอง : หลังจากคุณตกลงเรื่องราคาและรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คุณควรยืนยันการจองรถรับจ้างขนของและทำการสัญญาเช่าถ้าจำเป็น
    ตรวจสอบสินค้า : ก่อนที่รถรับจ้างขนของจะออกเดินทาง คุณควรตรวจสอบสินค้าให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกแพ็คและตรงตามรายละเอียดของคุณ
    ชำระค่าบริการ : ชำระค่าบริการตามที่ตกลงในสัญญาหรือรายละเอียดทางการเงินที่ระบุ
    รอการขนสินค้า : รอให้รถรับจ้างขนของนำสินค้าไปถึงสถานที่ปลายทางรถรับจ้างย้ายแม็คโค

การติดต่อและขอใช้บริการรถรับจ้างขนของนั้นเร็วร้อนและเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้การขนสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย. อย่าลืมทำความเข้าใจเงื่อนไขในสัญญาและคุณสมบัติของรถบรรทุกที่คุณเลือกใช้เพื่อให้การขนสินค้าเป็นไปอย่างถูกต้อง

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
อาหารสายยาง สารอาหารที่ให้ทางสายยาง ทางหลอดเลือดดำ

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า การให้อาหารทางสายยาง ซึ่งการให้อาหารทางสายยางนั้น เป็นการให้อาหารแก่ผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ อันเนื่องมาจากภาวการณ์เจ็บป่วยบริเวณลำคอ รวมไปถึงผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดบริเวณทางเดินอาหาร และไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ การให้อาหารทางสายยางหลายคนคงเคยเห็นแต่การให้อาหารทางสายยางผ่านทางรูจมูกหรือบริเวณหน้าท้อง

ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการให้อาหารทางสายยางอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือ การให้อาหารทางสายยางทางหลอดเลือดดำ โดยจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถใช้การระบบย่อยอาหารได้ตามปกติ โดยประเภทของการให้โภชนาการบำบัดขึ้นอยู่กับสภาพอาการและความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน สำหรับการให้อาหารทางหลอดเลือดดำนั้น จะใช้วิธีการให้การอาหารผ่านทางหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังโดยใช้เข็มหรือใช้สายสวนสอดเขาใต้ผิวหนัง พยายามให้ปลายสายสอดไปอยู่ในหลอดเลือดดำใหญ่ให้บริเวณใกล้ๆกับขั้วหัวใจเป็นวิธีที่แพทย์ในปัจจุบันใช้อยู่ เพราะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ควรรับอาหารทางปากหรือทางกระเพาะลำไส้เลย ซึ่งได้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามีการอุดตันเกิดขึ้นในทางเดินอาหาร หรือเป็นเพราะว่าผลข้างเคียงจากการผ่าตัด หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น แพทย์จึงให้งดอาหารทางปากเป็นการชั่วคราวระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นในระหว่างที่ผู้ป่วยเหล่านี้ ต้องงดอาหารหรือไม่ได้รับสารอาหาร ก็ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้อาหาทางหลอดเลือดแทนนั่นเอง

สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงสารอาหารที่ให้ทางสายยาง สำหรับผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางหลอดเลือดดำ ในเรื่องของสารอาหารนั้นส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นสารอาหารหลักๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน ไขมัน ส่วนอาหารรองนั้นจะได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ อิเล็คโทรไลต์ สำหรับสารอาหารที่กล่าวมานั้น ก็จะขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของผู้ป่วยต้องการสารอาหารชนิดใดเพื่อนำไปซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ และเพื่อทำให้ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย อย่างไรก็ตาม การให้อาหารทางสายยาง ผ่านหลอดเลือดดำนั้น สามารถนำไปให้ผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้


แต่ต้องมีการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน นอกจากนี้ ผู้ดูแลจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเกิดปัญหาอาจจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายได้ และเป็นการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆที่จะตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม การให้อาหารทางสายยาง ผ่านหลอดเลือดดำก็มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ช่วยแก้ไขภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเลคโทรไลต์ที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว เช่น อุจจาระร่วง บาดแผลจากการเกิดไฟไหม้ การสูญเสียเลือดมากเป็นต้น และยังช่วยดูแลป้องกันภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและอิเล็คโทรไลต์ เช่น ผู้ป่วยงดน้ำและอาหารทางปากก่อนหรือหลังการผ่าตัด หรือ หรือผู้ป่วยอาจจะมีภาวะเบื่ออาหาร รับประทานอาหารไม่ได้ มีอาการคลื่นไส้ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ การให้อาหารทางสายยางผ่านหลอดเลือดดำนั้น ยังช่วยให้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบทางเดินของอาหารได้ สามารถดูดซึมได้ดีมากขึ้น หรือบางกรณีการรับประทานอาหารทางปากแล้วเกิดการถูกทำลาย โดยน้ำย่อยจากกระเพราะอาหาร ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับสารอาหารได้ตามปกติ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เพื่อช่วยรักษาภาวะสมดุลของความเป็นกรด – ด่างในร่างกายของเราให้เป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการให้อาหารทางสายยาง โดยผ่านหลอดเลือดดำ จะเป็นวิธีการหนึ่งของการรักษาทางการแพทย์ แต่ก็ยังต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะการให้อาหารทางสายยางผ่านหลอดเลือดดำ อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ควรจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และกระทำโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างปลอดภัยและถูกต้องมากที่สุด ทางอาหารปั่นผสม อยากให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพื่อที่จะได้มีโภชนาการอาหารที่ดี ได้รับสารอาหารด้วยวิธีการปกติ หลีกเลี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน และอันตรายจากการได้รับสารอาหารทางสายยาง เพื่อให้ทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

10
หมอออนไลน์: เวียนศีรษะ บ้านหมุน (Vertigo)

เวียนศีรษะ บ้านหมุน (Vertigo) เป็นอาการที่ผู้ป่วยรู้สึกว่าตัวเองกำลังหมุน หรือสภาพแวดล้อมรอบตัวกำลังหมุน ทั้งที่ความจริงแล้วอยู่นิ่ง มักเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเสียการทรงตัว อาการนี้ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของ หูชั้นใน ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบการทรงตัว


สาเหตุหลักของอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการบ้านหมุนมักเกี่ยวข้องกับหูชั้นใน ได้แก่:

โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (BPPV - Benign Paroxysmal Positional Vertigo): เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการที่ตะกอนแคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) ในหูชั้นในหลุดออกมาจากตำแหน่งปกติ แล้วไปรบกวนการทำงานของระบบทรงตัว อาการจะเกิดแบบเฉียบพลัน กินเวลาเป็นวินาทีถึงนาที และมักถูกกระตุ้นเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ลุกจากเตียง พลิกตัว ก้ม หรือเงยหน้า

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's Disease): เกิดจากความผิดปกติของของเหลวในหูชั้นใน มีอาการเด่น 3 อย่าง คือ เวียนศีรษะบ้านหมุน (เป็นนานหลายชั่วโมง), หูอื้อ และ สูญเสียการได้ยิน

ประสาทหูอักเสบ หรือหูชั้นในอักเสบ (Vestibular Neuritis/Labyrinthitis): มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะรุนแรงต่อเนื่องหลายวัน ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีการสูญเสียการได้ยินร่วมด้วย (ในกรณีของ Labyrinthitis)

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการ
เมื่อมีอาการบ้านหมุนเฉียบพลัน ควรปฏิบัติดังนี้:

หยุดการเคลื่อนไหวทันที: นั่งลง หรือนอนลงบนพื้นราบในท่าที่สบาย โดยให้ศีรษะยกสูงขึ้นเล็กน้อย

หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวศีรษะอย่างรวดเร็ว: ไม่หันหน้า ก้ม หรือเงยคอเร็ว ๆ

พักในที่สงบ: หลีกเลี่ยงแสงจ้าหรือเสียงดัง

รับประทานยา: อาจรับประทานยาแก้เวียนศีรษะ หรือยาแก้เมารถเมาเรือ (กลุ่มยาที่ทำให้อาการบรรเทา)

สัญญาณอันตรายที่ควรไปพบแพทย์ทันที
แม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากมีอาการบ้านหมุนร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคทางสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง:

ตามองเห็นภาพซ้อน

แขนขาอ่อนแรง หรือมีอาการชา

พูดไม่ชัด หรือสื่อสารลำบาก

หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว

ปวดศีรษะรุนแรงอย่างกะทันหัน

หากอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนไม่ดีขึ้น หรือเป็น ๆ หาย ๆ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ

11
จัดฟันบางนา: การถอนฟันมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า การถอนฟัน เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นหากว่าฟันของท่านยังสามรถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น ซึ่งโดยหลักแล้วทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบวินิจฉัยก่อนว่า ฟันของท่านนั้นสามารถที่จะทำการรักษาได้หรือไม่ ซึ่งหากว่ายังพอจะรักษาได้ทันตแพทย์จะไม่แนะนำให้ถอนฟันเด็ดขาด เพราะ ฟันแท้ตามธรรมชาติดีที่สุดสำหรับช่องปากของคุณ

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการถอนฟันก็ยังคงเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดเช่นกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และเพื่อทำการกำจัดฟันซี่ที่เป็นต้นตอเพื่อทำการรักษาขั้นต่อไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อตัวคนไข้ โดยทันตแพทย์จะคำนึงในจุดนี้สำคัญมากๆ คือ จะรักษาอย่างไรให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุดในการใช้งานนั่นเอง

ซึ่งในวันนี้จะขอให้ท่านได้ทราบถึงการถอนฟันว่ามีหลักๆด้วยกันอยู่ 2 รูปแบบใหญ่ๆ ตามความเหมาะสมที่ทันตแพทย์เล็งเห็น ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมถอนฟันยากกว่าคนอื่นวิธีการต่างกับคนอื่น โดยเราจะขอแจกแจงให้ท่านทราบและเข้าใจดังต่อไปนี้


ฟันแบบไหนที่ตำเป็นต้องถอน ?

– ฟันซ้อนที่เป็นอุปสรรค์ต่อการจัดฟัน

ถือว่าจำเป็นมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่มีฟันซ้อนเกในช่องปากเยอะ ทันตแพทย์จำเป็นจะต้องทำการถอนฟันบางซี่ออกเพื่อให้ฟันสามารถเคลื่อนที่เรียงตัวกันได้

– การติดเชื้อหรือการอักเสบของฟันที่เกิดจากฟันผุ

หากว่าคนไข้ฟันผุไม่มากทันตแพทย์จะเลือกทำการรักษารากฟัน หรืออุดฟัน แต่สำหรับฟันที่มีการเสียหายรุนแรงการถอนฟันจึงถือว่าเป็นทางเลือกเดียวเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ

– ฟันซี่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง

สำหรับการรับประทานยาประจำตัวบางอย่าง อาจจะทำให้ฟันเกิดการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เชื้อลุกลามได้ง่ายขึ้นทันตแพทย์จึงต้องทำการถอนฟันซี่ที่มีโอกาสติดเชื้ออกเพื่อยับยั้งการแพร่กระจาย

รูปแบบของการถอนฟันมีอะไรบ้าง ?

1.    การถอนฟันแบบปกติ

การถอนฟันแบบปกตินี้เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันเป็นอย่างดีซึ่งไม่มีความยุ่งยากอะไรมากมาย ซึ่งทันตแพทย์ทั่วไปสามารถที่จะทำการถอนฟันแบบปกตินี้ได้ทุกท่าน ซึ่งในการถอนฟันแบบปกตินี้ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือที่เรียกว่าอิเลเวเตอร์ (Elevator) เพื่อทำให้ฟันโยกเคลื่อนอย่างนุ่มนวล ไม่ทำให้เส้นประสาทต้องเกิดปัญหา เมื่อฟันซี่ที่ต้องการจะถอนโยกพร้อมที่เตรียมจะหลุดได้แล้วทันตแพทย์จะใช้คีมคีบฟันซี่ที่โยกให้หลุดออก เพียงเท่านี้ก็เป็นการเสร็จสมบูรณ์ในการถอนฟันแบบปกติ


2.    การผ่าตัดเพื่อถอนฟัน

สำหรับวิธีนี้เชื่อว่าหลายๆท่านไม่เคยทราบมาก่อน เนื่องจากว่าการถอนฟันแบบนี้จะมีความซับซ้อนยุ่งยากมากๆกว่าการถอนฟันแบบปกติ ซึ่งการถอนฟันในรูปแบบนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อคนไข้มีการเกิดฟันแตกหักและฝังอยู่ในเหงือก หรือฟันที่มีปัญหาแต่ยังไม่เกิดการงอกขึ้นมาหรืองอกขึ้นมาเพียงนิดเดียวหรือส่วนหนึ่ง

ซึ่งการถอนฟันในรูปแบบนี้นั้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นศัลยแพทย์ช่องปากและใบหน้าขากรรไกรจะเป็นผู้ที่ทำการถอนฟันโดยการผ่าตัดนี้

ซึ่งการผ่าตัดนี้จะมีความยุ่งยากพอสมควร คือทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องทำการกรีดเหงือกตรงบริเวณที่จะทำการถอนฟันโดยจะเกิดแผลเล็กๆ และทำการเกิดปากแผลที่กรีดไว้แล้วจึงนำฟันที่แตกหักฝังอยู่หรือฟันคุดออกโดยการถอนตามขั้นตอน แต่ในบางกรณีอาจจะยากกว่านั้นตรงที่ฟันฝังอยู่ภายในกระดูกขากรรไกรทันตแพทย์อาจำเป็นต้องเอากระดูขากรรไกรส่วนโดยรอบออกด้วย หรืออีกวิธีก็คือแบ่งฟันออกเป็นสองส่วนและจึงทำการเอาฟันออกมาทีละส่วนนั่นเอง

ถ้าจะให้พูดกันตามตรงง่ายๆแล้ว การถอนฟันแบบหนึ่งหรือแบบสองนั้นต่างกันตรงกรรมวิธี และอาการของฟันคนไข้ แบบแรกเป็นที่นิยมเพราะง่ายไม่ยุ่งยากแถมแผลหายไวไม่ต้องเข้าผ่าตัดเป็นเรื่องใหญ่เสียค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น แต่คนไข้จะต้องมีส่วนของฟันยื่นออกมาให้ทันตแพทย์สามารถคีบออกได้ แต่หากว่าเป็นฟันแตกหักภายในก็จำเป็นจะต้องใช้วิธีที่สอง ซึ่งทันตแพทย์จะบอกคนไข้ก่อนทุกครั้งว่าจะใช้วิธีการไหนเพื่อให้คนไข้ได้รับทราบถึงอาการ

12
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


13
รถรับจ้างขนของกรุงเทพฯและปริมณฑล รถขนของไปต่างจังหวัด รถกระบะ 6ล้อ ย้ายบ้าน คอนโด ห้องพัก

ผู้นำด้านการบริการ รถรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

ไม่ว่าจะงานที่ไหนๆ รถรับจ้างขนของกรุงเทพ ของเราก็พร้อมไปเสมอ เช่น ขนย้ายหอพัก ขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด ย้ายแค้มก่อสร้าง จากรถขนของมากมาย ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถ 6 ล้อรับจ้างกรุงเทพ เหมาะมากๆ เราให้การบริการ รับจ้างขนของ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น งานบริการที่ครบ จบในที่เดียว เน้นงานที่ คุณภาพแต่ราคาไม่แพง รถรับจ้างของเราในแต่ละคัน ต่างเป็นรถรับจ้างที่สภาพดีใหม่ เพราะด้วยว่าการรับจ้างขนของ จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะต้องมีความพร้อม ทั้งรถ และพนักงานขับ

ดังนั้นเราจึงต้องเน้นสองสิ่งนี้ ให้ดีเยี่ยม และเกิดปัญหาน้อยที่สุด ซึ่ง รถรับจ้างในกรุงเทพและปริมณฑล ของเรา ต่างให้บริการ ที่หลากหลายประเภท เช่น รถกระบะรับจ้างเขตกรุงเทพ จะมีให้บริการ ทั้งกระบะตอนเดียว กระบะแคป แบบตู้ทึบ และแบบคอกสูง มีผ้าใบคลุม รถ6ล้อรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีรถที่มีขนาดที่หลากหลายเช่นกัน
รถ 6 ล้อรับจ้างย้ายบ้าน

คือขนาดเล็ก ยาว 5.5 เมตร ขนาดกลาง ยาว 6.5 เมตร ขนาดใหญ่ยาว 7.2 เมตร ก็จะมีให้เลือกทั้ง แบบคอกสูงมีผ้าใบคลุม และแบบเป็นตู้ทึบ ส่วนใหญ่ลักษณะงานของรถ 2 ประเภทนี้ ก็จะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าโรงงาน ในรูปของกล่อง บรรจุภัณฑ์ ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายเครื่องจักร หรือแม้กระทั่ง สินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือ งานไซด์งงานก่อสร้าง รถสิบล้อรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ก็จะมีทั้งแบบคอกสูงและตู้ทึบ งานที่ให้บริการก็มีหลากหลายเช่นกันไม่แตกต่างจาก รถ 6 ล้อรับจ้างเลย ซึ่งสามารถขนย้ายสินค้าได้น้ำหนักสูงสุดถึง 15 ตัน

บางครั้งอาจจะขนย้าย พวกปุ๋ยเคมี วัสดุก่อสร้าง ปูน เหล็ก อาหารสัตว์ เป็นต้น รถเฮี๊ยบรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ขนย้ายเครื่องจักร ยกต้นไม้ ยกแบริเออร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น รถเทลเลอร์รับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงาน ที่ขนย้ายสินค้าขนาดที่ใหญ่มากและ มีความยาว จึงต้องใช้ทีมงานที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการช่วยขนย้าย

ทุกงานที่กล่าวมานี้ เราให้บริการมาแล้วทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี งานบริการรับจ้างขนของ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ของเราลูกค้าต่างให้การยอมรับ และชื่นชอบที่เข้ามาใช้บริการรถรับจ้างของเรา เพราะ งานที่ขนย้ายกับเรา สินค้าของลูกค้าไม่เคยมีปัญหา หาย ชำรุด แตกพัง

พร้อมกับพนักงานผู้ให้บริการ พูดจาสุภาพ ดีทุกคนจึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างกรุงเทพ ของเราอย่างมากมาย หากท่านต้องการใช้บริการ รถรับจ้างขนของกรุงเทพ และปริมณฑลของเราท่านสามารถโทรเข้ามาติดต่อสอบถามกับเราได้ทุกวันและเวลา เราเปิดตลอด 24 ชั่วโมง


บริการที่ครบครัน จัดการจบในที่เดียว ราคาเป็นกันเอง

 หากท่านต้องการ รถรับจ้างขนของราคาถูก ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ท่านสามารถโทรจอง หรือล็อคคิว รถรับจ้าง เที่ยวราคาถูกนี้ได้ ซึ่งท่านจะต้องจองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2-3 วันเพื่อให้เราจัดคิวรถรับจ้างขนของราคาถูกนี้ให้กับท่าน ที่สำคัญ ท่านต้องรีบจอง เพราะราคาเที่ยวรถนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่ท่านก็ ฝากข้อความ ระบุความต้องการที่จะใช้รถ รับจ้างเที่ยวนี้ จะย้ายจากไหนไปไหนขนย้ายสินค้าเป็นอะไร และ และวันที่ต้องการขนย้าย

14
เคล็ดลับการเลือกแจกันเซรามิก ของขวัญเอาใจคนชอบแต่งบ้าน

การเลือก แจกันเซรามิก เป็นของขวัญสำหรับคนชอบแต่งบ้านเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยค่ะ เพราะแจกันเป็นของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม มีชีวิตชีวา และบ่งบอกสไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นของใช้ที่สามารถใส่ดอกไม้เพิ่มความสดชื่นได้อีกด้วย ลองมาดูเคล็ดลับในการเลือกแจกันเซรามิกให้ถูกใจผู้รับกันนะคะ

1. พิจารณาจากสไตล์การแต่งบ้านของผู้รับ
นี่คือสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยค่ะ การเลือกแจกันที่เข้ากับสไตล์การแต่งบ้านของเขาจะทำให้ของขวัญดูมีคุณค่าและใช้งานได้จริง

มินิมอล/สแกนดิเนเวีย:

ลักษณะ: เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ฟังก์ชันการใช้งาน

แจกันที่เหมาะสม: แจกันทรงเรขาคณิต (ทรงกลม ทรงกระบอก สี่เหลี่ยม) สีขาว สีเทา สีเบจ หรือสีเอิร์ธโทน ไม่มีลวดลาย หรือมีลายนูนต่ำที่ละเอียดอ่อน วัสดุผิวด้าน (matte)

โมเดิร์น/ร่วมสมัย:

ลักษณะ: เน้นความทันสมัย เส้นสายชัดเจน อาจมีลูกเล่นที่รูปทรง วัสดุ

แจกันที่เหมาะสม: แจกันทรงแปลกตา มีความโค้งมน หรือรูปทรงนามธรรม สีขาว ดำ เทา เมทัลลิก หรือสีสันสดใสแบบโมเดิร์น ผิวเงา หรือผสมผสานวัสดุ

วินเทจ/เรโทร:

ลักษณะ: ย้อนยุค มีกลิ่นอายอดีต ลวดลายคลาสสิก

แจกันที่เหมาะสม: แจกันลายดอกไม้ ลายกราฟิกแบบเก่า สีสันตุ่นๆ หรือแจกันที่มีเท็กซ์เจอร์แบบวินเทจ เช่น ลายแตก

โบฮีเมียน/รัสติก:

ลักษณะ: เน้นความเป็นธรรมชาติ ความอิสระ ความดิบ

แจกันที่เหมาะสม: แจกันทรงไม่สมมาตร ผิวหยาบ หรือมีเท็กซ์เจอร์แบบดินเผา สีธรรมชาติ สีเอิร์ธโทน หรือมีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากชนเผ่า

คลาสสิก/หรูหรา:

ลักษณะ: เน้นความโอ่อ่า สง่างาม วัสดุคุณภาพดี

แจกันที่เหมาะสม: แจกันทรงสูง สง่างาม อาจมีลวดลายแกะสลักนูนต่ำ หรือลวดลายทอง/เงิน สีขาว ครีม ทอง ดำ หรือสีอัญมณี

2. ขนาดและรูปทรง

ขนาด:

เล็ก: เหมาะสำหรับวางบนโต๊ะทำงาน โต๊ะข้างเตียง หรือชั้นวางของเล็กๆ ใส่ดอกไม้ดอกเดียว หรือกิ่งไม้เล็กๆ

กลาง: เหมาะสำหรับวางบนโต๊ะอาหาร โต๊ะกาแฟ หรือคอนโซล ใช้ใส่ดอกไม้ช่อกลางๆ

ใหญ่: เหมาะสำหรับวางบนพื้นมุมห้อง หรือเป็นของตกแต่งชิ้นหลักบนโต๊ะใหญ่ๆ ใส่ดอกไม้ช่อใหญ่ หรือกิ่งไม้สูงๆ

พิจารณาจากพื้นที่: ถ้าไม่แน่ใจว่าผู้รับมีพื้นที่ขนาดไหน ให้เลือกขนาดกลางๆ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย

รูปทรง:

ทรงกลม/ทรงไข่: ดูนุ่มนวล เป็นกันเอง

ทรงกระบอก/สี่เหลี่ยม: ดูเรียบง่าย ทันสมัย

ทรงคอแคบ: เหมาะสำหรับดอกไม้กิ่งเดียว หรือ 2-3 ดอกที่ต้องการให้โดดเด่น

ทรงปากกว้าง: เหมาะสำหรับดอกไม้ช่อใหญ่ หรือดอกไม้ที่มีพุ่ม

รูปทรงอิสระ/นามธรรม: สร้างความน่าสนใจและเป็นจุดเด่น

3. สีสันและลวดลาย

สีพื้น: ปลอดภัยที่สุด สามารถเข้ากับการตกแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีขาว ดำ เทา เบจ หรือสีพาสเทลอ่อนๆ

สีสันสดใส: หากผู้รับเป็นคนสดใส หรือบ้านมีสไตล์ที่อนุญาตให้ใช้สีสันได้ แจกันสีสดใสจะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา

ลวดลาย: ลายเรขาคณิต ลายดอกไม้ ลาย Abstract หรือลายนูนต่ำ เลือกให้เข้ากับสไตล์ที่กล่าวไปข้างต้น

4. วัสดุเซรามิกและเท็กซ์เจอร์ (พื้นผิว)
เซรามิกมีหลายประเภทและพื้นผิวที่แตกต่างกัน:

เครื่องปั้นดินเผา (Earthenware): เนื้อหยาบกว่า ดูเป็นธรรมชาติ อบอุ่น มักมีสีเอิร์ธโทน

สโตนแวร์ (Stoneware): แข็งแรง ทนทาน มีความพรุนน้อยลง มีพื้นผิวหลากหลาย ตั้งแต่หยาบจนถึงเรียบเนียน

พอร์ซเลน (Porcelain): เนื้อละเอียดที่สุด โปร่งแสง เงางาม ดูหรูหรา ราคาแพง มักใช้ในงานที่ต้องการความประณีตสูง

เท็กซ์เจอร์: ผิวด้าน (matte) ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทันสมัย / ผิวเงา (glossy) ดูหรูหรา สดใส / ผิวหยาบ ให้ความเป็นธรรมชาติ

5. งบประมาณ
แจกันเซรามิกมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับแบรนด์ วัสดุ ความซับซ้อนของดีไซน์ และชื่อเสียงของศิลปิน กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม และเลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุดในงบนั้น

6. การนำเสนอ
ห่อของขวัญอย่างสวยงาม: เลือกกระดาษห่อที่เข้ากับสไตล์ของแจกัน หรือใช้กล่องของขวัญที่ดูดี

แนบการ์ดอวยพร: เขียนข้อความที่แสดงความใส่ใจและความปรารถนาดี

ไอเดียเพิ่ม: หากเป็นไปได้ อาจจะหาดอกไม้สวยๆ สักช่อ หรือก้านไม้ประดับเล็กๆ น้อยๆ จัดใส่ไปในแจกันด้วย เพื่อให้ผู้รับสามารถนำไปตั้งโชว์ได้ทันที

การเลือกแจกันเซรามิกเป็นของขวัญเป็นการมอบความสวยงามและสุนทรียภาพให้กับผู้รับค่ะ หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกแจกันที่ถูกใจและสร้างความประทับใจให้ผู้รับได้นะคะ!

15
โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร สาเหตุ อาการ ปัจจัยเสี่ยง

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric Cancer หรือ Stomach Cancer) เป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งมักตรวจพบในระยะลุกลามเนื่องจากอาการในระยะแรกมักไม่จำเพาะเจาะจง

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงหลัก

แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ปัจจัยต่อไปนี้เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ:

1. การติดเชื้อแบคทีเรีย

เชื้อ Helicobacter pylori (H. pylori): เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด ทำให้เกิดภาวะกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง (Chronic Gastritis) และแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งหากเป็นเรื้อรังอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารจนกลายเป็นมะเร็ง


2. ปัจจัยด้านอาหารและพฤติกรรม

อาหารแปรรูปและหมักดอง: การรับประทานอาหารที่มีเกลือสูง, อาหารรมควัน, อาหารตากแห้งเค็มจัด, อาหารหมักดอง, หรือเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีสารดินประสิว (ไนเตรต/ไนไตรต์) ในปริมาณมากและต่อเนื่อง

การสูบบุหรี่: เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นสองเท่า และยังลดประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อ H. pylori ด้วย

การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มในปริมาณมากและสม่ำเสมอเพิ่มความเสี่ยง

ภาวะอ้วน (Obesity): โดยเฉพาะมะเร็งที่เกิดบริเวณส่วนต้นของกระเพาะอาหารใกล้กับหลอดอาหาร


3. ปัจจัยทางพันธุกรรมและโรคประจำตัว

ประวัติครอบครัว: มีบุคคลในครอบครัวใกล้ชิด (เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง) เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

อายุและเพศ: พบมากขึ้นในผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และพบใน เพศชาย มากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังชนิดฝ่อ (Atrophic Gastritis) หรือ ภาวะโลหิตจางจากขาดวิตามินบี 12 (Pernicious Anemia)

เคยผ่าตัดกระเพาะอาหาร: ผู้ที่เคยผ่าตัดกระเพาะอาหารบางส่วนอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในระยะยาว


อาการโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

อาการในระยะแรกมักไม่รุนแรงและคล้ายกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือโรคกรดไหลย้อนทั่วไป ทำให้หลายคนละเลย แต่หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย เป็นนาน หรือมีอาการใหม่ ๆ ควรปรึกษาแพทย์

อาการในระยะเริ่มต้น (มักไม่จำเพาะเจาะจง)
อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือรู้สึกไม่สบายท้องบริเวณส่วนบน

ปวดท้อง บริเวณลิ้นปี่

แสบร้อนกลางหน้าอก (Heartburn) ที่เป็นอยู่เป็นประจำ

รู้สึกอิ่มเร็ว ทั้งที่รับประทานอาหารไปเพียงเล็กน้อย

คลื่นไส้


อาการในระยะลุกลาม (เป็นสัญญาณอันตราย)

น้ำหนักลดลง อย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาเจียนเป็นเลือด หรือ ถ่ายอุจจาระมีสีดำ เหมือนยางมะตอย (บ่งชี้ว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร)

อ่อนเพลีย หรือมีภาวะโลหิตจางรุนแรง

กลืนลำบาก

คลำพบก้อน ในช่องท้อง

หน้า: [1] 2 3 ... 58


























































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า